เอเอฟพี - นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในวันศุกร์ (6 พ.ค.) เดินทางเยือนรัสเซีย และพบปะกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ในการเยือนของผู้นำคนหนึ่งของ จี 7 ที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก แม้มีเสียงคัดค้านจากสหรัฐฯที่พยายามโดดเดี่ยวมอสโก ขณะที่ทั้งสองฝ่ายต้องการกระชับความสัมพันธ์และสานความคืบหน้าในความพยายามคลี่คลายข้อพิพาททางอาณาเขตที่เรื้อรังมานานหลายทศวรรษ “ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่เพื่อนบ้านของเรา แต่ยังเป็นคู่หูที่สำคัญมากสำหรับเราในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก” ปูติน บอกกับนายอาเบะ ในช่วงเริ่มต้นการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่โซชิ เมืองตากอากาศริมทะเลดำ ความสัมพันธ์ระหว่างโตเกียว กับ มอสโก มึนตึงจากข้อพิพาทในอดีต ย้อนกลับไปในช่วงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังทหารโซเวียดเข้ายึดเกาะ 4 แห่งทางตอนใต้สุดของหมู่เกาะคูริล ที่ทางญี่ปุ่นเรียกว่า “นอร์ทเทิร์นเทร์ริทอรีส์ หรือ ดินแดนทางตอนเหนือ” ความตึงเครียดที่ยืดเยื้อมานานระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซียเป็นตัวขัดขวางพวกเขาจากการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพยุติความเป็นปรปักษ์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งกลายเป็นตัวเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุน “เรามีคำถามมากมายที่ต้องการเอาใจใส่เป็นพิเศษ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องอุทิศความสนใจเป็นพิเศษนี้ เพื่อสานความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ” ปูติน กล่าว ส่วน นายอาเบะ เรียกร้องสองฝ่าย “แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา” ในประเด็นต่าง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องทวิภาคีอย่างเช่น เรื่องการเมือง ที่รวมถึงคำถามเกี่ยวข้องบทสรุปของสนธิสัญญาสันติภาพ และเรื่องทางการทูต แต่ควรรวมถึงประเด็นสำคัญระดับนานาชาติที่ยืนตระหง่านต่อหน้าญี่ปุ่นกับรัสเซีย และทั้งโลกด้วย เครมลินปฏิเสธความหวังที่จะฟันฝ่าอุปสรรคใด ๆ ในการคลี่คลายข้อพิพาทระหว่างการประชุมในวันศุกร์ (6 พ.ค.) แต่บอกว่า การมาเยือนของอาเบะ คือ สัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์อันอบอุ่น แม้ตะวันตกจะพยายามโดดเดี่ยวปูตินก็ตาม ทั้งสองฝ่ายแย้มถึงความเป็นไปได้ในการเริ่มต้นเจรจาเกี่ยวกับการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ โดย นายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น เผยในเดือนเมษายน ว่า พวกเขาอาจเริ่มต้นพูดคุยอย่างเร็วที่สุดหลังผู้นำทั้งสองประเทศพบปะกัน แม้มีคำพูดอบอุ่นมาจากฝั่งเครมลิน แต่ความตึงเครียดระหว่างสองชาติยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ โดยญี่ปุ่นได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียต่อวิกฤตยูเครน เมื่อเร็ว ๆ นี้ รัสเซียได้กระตุ้นความขุ่นเคืองแก่ญี่ปุ่น ด้วยการสร้างฐานทัพแห่งใหม่บนเกาะพิพาท 2 แห่ง หลังจากก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ โหมกระพือไฟโกรธแก่โตเกียว ด้วยการเดินทางเยือนหนึ่งใน 2 เกาะดังกล่าว ซึ่งมีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ราว 19,000 คนเมื่อปีที่แล้ว อาเบะจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี 7) ซึ่งรัสเซียถูกขับออกจากลุ่ม หลังจากพวกเขาผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน “ชัดเจนว่าญี่ปุ่นพยายามทำตัวในฐานะคนกลางในกระบวนการพูดคุยระหว่างรัสเซีย และ สหรัฐฯ” หนังสือพิมพ์ Rossiiskaya Gazeta ของรัฐบาลรัสเซีย ระบุในวันพฤหัสบดี (6 พ.ค.) เคยมีข่าวว่า ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้ร้องขอนายอาเบะเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ให้เลื่อนโปแกรมเดินทางเยือนรัสเซียออกไป อเล็กซานเดอร์ ปานอฟ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย และเอกอัครราชทูตประจำกรุงโตเกียว เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์ Izvestia เมื่อวันพฤหัสบดี (6 พ.ค.) ว่า ผลจากการประชุมครั้งนี้ อาจให้เห็นญี่ปุ่นยอมยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนต่อรัสเซีย
เพราะผู้นำรุ่นหลังๆ ชักเป็นเด็กเลี้ยงแกะเข้าไปทุกที ทั้งๆที่อดีตผู้นำของเมกาเอง ได้เคยกล่าวคำคมที่เป็นอมตะเอาใว้ “อับบราฮัม ลินคอล์น” "คุณสามารถที่จะโกหกคนบางคนได้ในบางเวลาแต่คุณไม่สามารถที่จะโกหกทุกคนได้ตลอดเวลา" You can lie to someone, sometimes but not everyone, every times!
อยากรู้ว่า อาเบะให้เหตุผล ต่อโอบาม่าอย่างไร เพราะ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา โอบามา เคยโทรมาบอกว่า “ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก”ที่จะเยือนรัสเซีย
ยังไง อเมริกา ก็เป็นลูกพี่ของญี่ปุ่นอยู่แล้ว ฐานทัพอเมริกาก็อยู่ในประเทศ กองเรือที่7ก็ลอยลำอยู่ไม่ห่างจากญี่ปุ่นเท่าไหร่
เอ…แล้วที่ลุงตู่จะไปงวดนี้...นี่... พวกขี้ข้าทุยแดง อยากให้ทางโอบามา บอกว่ายังไงบ้างหว่า?... เพื่อนๆ พอทราบ หรือคิดเห็นว่าไง?...
อยากให้ช่วยเปรียบเทียบ และวิจารณ์กันดูทีครับว่า อย่างไหน น่าจะ "เป็นงาน และได้งาน" มากกว่ากัน … ๐๐๐ vs. http://trend.horoworld.com/tags/นายกปู-โอบาม่า