เพื่อชาติ เพื่อพ่อหลวง @Tik_News มาแล้ว.!!! กตช. มีมติ ให้ "พล.ต อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา "รอง ผบ.ตร. เป็น ผบ.ตร คนที่ 11
กฏข้อที่ให้ จพง. ลาออก แล้วกลับมารับ ราชการ ตำแหน่งเดิมพร้อมสิทธิประโยชน์ได้รับเหมือนเดินนี้ ต้องแก้ไข ยกเว้นปฏิบัติงานพิเศษ(ลับ) เท่านั้น ถ้าลาออกเพื่อกิจการเมือง ถือว่า ลาออกจากหน้าที่เดิมเด็ดขาด ตำแหน่งว่าง ทันทีนะจ๊ะ
นับว่าโตเร็วมากกกกกกกก มีอายุราชการยาวนานมากกกกกก กว่าจะเกษียณก็นู้นปี 62 ก็ต้องรอดูต่อไปล่ะว่า จะอยู่ในเก้าอี้ตัวนี้ได้นานแค่ไหน เพราะคนที่นั่งเก้าอี้ตัวนี้ ถ้าไม่ใช่มีอายุราชการแค่ปีเดียว ปิ๋วปิ้วในท้ายสุดทุกราย
ถ้ากล้าเซนต์ กล้าออกคำสั่งเด็ดขาดสัก 2-3คำสั่ง อยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 3 ปี ต่อไปเป็นรูปการ อาจจบสวยที่สุดก้อดี คดีพี่แจ็ด ถ้าถูกใจละ ก้อใช่เลย
ถ้าเป็นไปได้อยากได้ท่านเอกมากกว่านะครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่จูดี้ กับ พวกลิปตพัลลภ ก็พอแล้ว
ใจบางบาง ใยไหม หญิงในเชิงบวก ฟ้อง 'เอก อังสนานนท์' กับพวกรวม 9 คน ฮั้วประมูลเอ็นจีวี ..ศาลอาญารับคำฟ้อง คดีผู้เข้าร่วมประมูลรถเมล์ระบบ NGV ของ ขสมก.ฟ้อง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ กับพวกรวม 9 คน ร่วมกันกระทำ โดยมุ่งหมาย มิให้มีการแข่งขัน ราคาอย่างเป็นธรรม ด้วยการแก้ Specification เอื้อบริษัทผู้แข่งขัน นัดฟังคำสั่งไต่สวนมูลฟ้อง 21 ส.ค.นี้ เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ส.ค.58 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด โดย นายทินกร พันพานิชย์กุล ผู้รับมอบอำนาจเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์, น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ, พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์, นายวันชาติ สันติกุญชร, นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์, นายพีระพงศ์ รอดประเสริฐ, นางปราณี ศุกระศร, นายยุกต์ จารุภูมิ, นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 (พ.ร.บ.ฮั้วประมูล) มาตรา 9,10,11 และ 12 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ คำฟ้องบรรยายว่า เดิมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ โดยจำเลยที่ 1-7 จัดประกวดราคารถเมล์ระบบเอ็นจีวี จำนวน 489 คันทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งโจทก์และกิจการร่วมค้า กับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยจำเลยที่ 9 ได้เข้าร่วมประกวดราคาด้วย ต่อมาโจทก์กับบริษัทดังกล่าว ได้ผ่านการเข้าประกวดราคารอบแรก โดยการประกวดราคาดังกล่าว ได้แต่งตั้งให้จำเลยที่ 8 เป็นประธานประกวดราคาและประธานกรรมการตกลงและต่อรองราคา มีหน้าที่ในการควบคุมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดราคา และมีจำเลยที่ 1-7 ควบคุมอีกที ต่อมาเมื่อประมาณเดือนมีนาคม 2558 พวกจำเลยได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กล่าวคือ จำเลยมีหน้าที่ควบคุมและตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าประกวดราคาให้เป็นไปตามระเบียบขั้นตอนของขอบเขตของงาน หรือเทอมออฟรีเฟอร์เรนซ์ แต่จำเลยก็ไม่ทำ กล่าวคือ บริษัทผู้แข่งขันเข้าประกวดราคาที่เข้ารอบร่วมกับโจทก์ ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของรถเมล์ที่ส่งเข้าประมูล ตามระเบียบขั้นตอนเทอมออฟรีเฟอร์เรนซ์ โดยเฉพาะไม่มีการกล่าวถึงการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบเอ็นจีวี กับหน่วยงานข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ทั้งในและต่างประเทศ แต่จำเลยก็ไม่ได้ทำการตัดสิทธิบริษัทดังกล่าวแต่อย่างไร ภายหลังที่ได้มีการประกวดราคาเรียบร้อยไปแล้ว พวกจำเลยมีหน้าที่ตรวจสอบการตกลงและต่อรองราคาอีกครั้งหนึ่ง โดยมอบหมายให้จำเลยที่ 8 ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และประธานกรรมการประกวดราคา เป็นผู้ดำเนินการตกลงต่อรองราคา ลดจำนวน 489 คัน แต่จำเลยที่ 8 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 9 ซึ่งเป็นผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว มีการกระทำโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เข้าทำการเสนอราคา เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ด้วยการแก้รายละเอียดคุณสมบัติของบริษัทผู้แข่งขันดังกล่าว ให้ถูกต้องตามระเบียบ (แก้สเปก) ทำให้บริษัทดังกล่าวชนะการประกวด ทั้งที่ความจริงบริษัทดังกล่าวมีการแก้ไขสเปกหลังจากที่ได้มีการประกวดราคาและต่อรองราคาไปแล้ว ซึ่งขัดต่อระบบเทอมออฟรีเฟอร์เรนซ์ ทั้งนี้ จำเลยที่ 1-7 เป็นผู้ดูแลให้เป็นไปตามระเบียบ แต่กลับปล่อยปละละเลย จึงเข้าลักษณะเป็นตัวการร่วมการกระทำความผิดกับจำเลยที่ 8 การกระทำดังกล่าว ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ศาลเรียกจำเลยมาเพื่อไต่สวนมูลฟ้องต่อไป เบื้องต้นศาลรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.11/2558 เพื่อจะมีคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องหรือไม่ในวันที่ 21 สิงหาคม เวลา 09.00 น. ข่าวไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/518250 ถ้าอยู่วาระ 1ปี ส่วนคดีจริงเท็จ แต่มีอยู่ เห้นควรสละ ดีกว่าภาพออกมาเสียที่หลัง ตอนนี้อยู่สู่คดี ยังไม่น่าเกียด ครบเทอม ก้อไม่มีจุดด่าง แม้จะม่อมด้วยฝุ่นก้อตาม