เวลาที่ 1.53 ******************************************** ตำรวจเร่งควานหาตัว ดราก้อน คนสนิทนักการเมืองดัง หลังพบความเชื่อมโยงโครงข่ายอดีตครูฝึกทหารพรานลพบุรี สงสัยพัวพันการวางระเบิด ไปบ์บอมบ์ หน้าสยามพารากอน ไปติดตามในรายงานนี้จากผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี พรรณทิพา จิตราวุฒิพร
นึกถึง จารุพงษ์ เรืองสุวรรณ ฮะ ไอ้นี่มาแต่ละชอต แบ่งแยกประเทศเอย ปืนสิบล้านกระบอกเอย แต่ไม่น่าจะใช่ เพราะพักหลังเริ่มชักเนื้อตัวเองเหมือนกัน
ในนาทีที่ 2.18 บอกว่าอดีตนักการเมืองสมุทรปราการ แต่ผมนึกไม่ออกว่าใครบ้างที่นิยมความรุนแรง หรือว่าเจ้าของห้างที่ตั้งสถานีทีวีดาวเทียมหรือเปล่า
เห็นด้วยกับที่เขียนมาทั้งหมด "....แนวทางการดำเนินคดีของตำรวจ ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบังอำพรางอีกแล้วว่าคสช.กำลังล่อขั้วอำนาจเก่า ไล่เป็นลูกระนาด นับตั้งแต่ สนช. ถอดถอนอดีตนายกรัฐมนตรีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถัดมาเมื่อนายแดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เข้ามาจุ้นจ้านทั้งเรื่องการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ และกดดันให้เลิกกฎอัยการศึก ทำให้อดีตส.ส.เพื่อไทย เลือดสูบฉีดคึกคักออกมาวิพากษ์วิจารณ์คสช. จนมีรายการเรียกแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย มาปรับทัศนคติ เหตุการณ์ท้าทายอำนาจคสช. ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน และเพิ่มดีกรีความรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกเป็นลำดับ คงทำให้คสช.ที่มองโลกสวย ท่องคาถายึดมั่นในแนวทางปรองดองกับขั้วอำนาจเก่าตลอดเวลาที่ผ่านมาได้คำตอบแจ่มแจ้งแล้วว่า กลุ่มอำนาจเก่าสะกดคำว่า "ปรองดอง" ไม่เป็น และพร้อมเสมอที่จะลุกขึ้นมาโค่นอำนาจ คสช. หาได้ซาบซึ้งในไมตรีที่คสช.พยายามหยิบยื่นให้แต่อย่างใด มองย้อนกลับไป ในนามของความปรองดอง คสช.ปล่อยโอกาสในการจัดการเสี้ยนหนามแผ่นดิน ครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อมีการจับกุมอาวุธสงครามจำนวนมาก แต่ในการดำเนินคดีกลับไม่มีการเชื่อมโยงขบวนการไปถึงยังแหล่งต้นตอ ทั้งๆ ที่มีเบาะแสมากมายที่บ่งชี้ว่าเป็นพฤติกรรมของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมี “ท่อน้ำเลี้ยง” มาจากคนแดนไกล มองย้อนกลับไป คสช. พลาดโอกาสที่จะขยายผลกรณี “ขอนแก่นโมเดล” ซึ่งปรากฏข่าวในเบื้องต้นว่าโยงใยไปถึงคนบงการ แต่เมื่อมีการสรุปคดีส่งฟ้องในข้อหาก่อการร้ายกับผู้ต้องหาราว 20 คน ก็จบที่ตัวเล็กตัวน้อยไม่มีการสาวให้ลึกลงไปอย่างที่ควรจะเป็น มองย้อนกลับไป การจับกุมชายชุดดำล่าสุดที่ตอนแรก ระบุว่า เกี่ยวพันกับการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม แต่ในที่สุดกองปราบก็รวบรัดแจ้งข้อหาเพียงแค่การพกพาอาวุธเท่านั้น ไม่มีการส่งคดีต่อไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ดูแลคดีก่อการร้าย ไม่มีการขยายผลกรณีที่พบการโอนเงินเข้าบัญชีคนเสื้อแดง ปล่อยให้ทุกอย่างเงียบหายไปกับสายลม ตัวใหญ่ยังคงผึ่งผายจ่ายเงินดูแลลูกกระจ๊อกทั้งที่อยู่ในประเทศ และหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ต่างประเทศอย่างสบายใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมทำให้ขบวนการป่วนเมืองที่กบดานปรับโหมดพร้อมดำเนินการได้ทุกเวลาเมื่อเงื่อนไขสุกงอม ซึ่งก็หมายถึงการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และการเดินทางเข้ามายังไทยของนายแดเนียล ยังไม่สายเกินไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเลิกโลกสวย ปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การบริหารใหม่ ด้วยการดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา สาวให้ลึกถึงต้นตออย่าปล่อยให้คาราคาซังเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดินเหมือนที่เกิดขึ้นในขณะนี้..." http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9580000015120
ผมว่าจริง ๆ อดีตนักการเมืองมันไม่กล้าหรอกครับ แต่ว่ามันจะใช้วาทะในการปลุกปั่นยุยงให้เกิดความรุนแรงโดยอาศัยมือตีนของลิ่วล้อที่เดินดมตูดมัน เพราะไอ้พวกห่านี่มันไม่กล้าลงมือหรอกมันก็กลัวตาย มองย้อนอดีตไปไม่นานสังเกตุดูไอ้พวกห้าว ๆ เป็นไงครับ ปีนตึกหนีอย่างกับตัวเหี้ย โดนจับหน้าซีดเหมือนตีนที่ใส่รองเท้าหลายวัน ไอ้พวกอดีตมันแค่คนปลุกระดมเท่านั้นแหละ ขนาดว่าเจ๋ง ๆ เป็นถึงเจ้าพ่อยังต้องหนีออกนอกประเทศ มันดูแล้วจันอะไรแมนจริง ๆ