จากทู้นี้ ผมพนันได้เลย ไอ่ขี้เปียก(แปะ) มันไม่เคยเป็นทหารเกณฑ์ มันเลยไม่รู้ว่าทหารเขาออกกำลังกายทุกบ่ายวันพุธกันอยู่แล้ว... สรุปมันไม่หนีการเกณฑ์ทหารก็อายุยังไม่ถึงครับ...
อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยนะ ตอนคราวอีโง่เอาเวลาราชการไปออกกำลังกายในร่มที่โฟร์ซีซั่มครั้งนั้น พวกกาสรสีชาดไม่มีบ่นซ๊ากคำเบยจริมๆ
ลุงตู่แค่ออกกำลังกายในที่สาธารณะ จิ๊บๆครับ สู้อดีตนายกฯท่านหนึ่งไม่ได้ ขานั้นหนีงานไปฝึกฝน49ท่าพิศดารที่โรงแรมทีเดียว
สมองจขกท.คงไปหมดแล้ว กะแค่วันออกกำลังกายสัปดาห์ละครั้งๆละครึ่งชั่วโมง มึงไปดูตามโรงเรียนเขายังมีวันกีฬาเลยคิดสิคิด เรื่องไม่เป็นเรื่องมึงก็เอามาเป็นประเด็นเหน็บแหนม ออกกำลังกายมันก็ได้แค่สูขภาพ ใหนเลยจะเหมือนมึงนั่งพิมพ์คีย์บอร์ดแล้วได้ตังค์ หรือมึงจะให้ข้าราชการใช้เวลาว่างตั้งวงเล่นไฮโลเหมือนที่โดนจับในอบต.
ทุกวันพุทธ ครึ่งบ่าย เป็นวันออกกำลังการ ของทหารอยู่แล้ว ไม่ถือว่าขาด ลา งาน ครับ แต่ถ้าเป็น เหล่ากาสร ก็คงตั้งวง....
จขกท.อย่าอายเด็กอนุบาลบ้างเขาบริหารกันทุกเช้า นี่แค่วันเดียวแค่ครึ่งชั่วโมงเองอย่าเยอะ บริษัทห้างร้านบางหน่วยงานราชการโรงเรียนเขาทำกันทุกเช้ามาเป็นชาติแล้ว ขยันจังเรื่องโชว์โง่
ประเด็นแกคงอยากสื่อว่าไปเลียนแบบศาสดาเหลี่ยมเค้าน่ะครับ แต่ทั่นศาสดาเหลี่ยมออกข่าว BBC เลยนะคัช คือว่า เจ๋งกว่า ไรงี้อ่ะ
ไอ้"ตัดแปะ" ไม่มีวัวปนเลย ด่าอีกคนดันไปเอารูปไอ้แม้วมาโชว์ ให้แปลว่าแม้วทำนอกเวลาเรอะ ควาย ไอ้"ตัดแปะ"คงเป็นกระเทยอ้วนไม่ชอบการออกกำลังกายมั้ง หรือแค่แถไปทุกๆอย่างที่คิดว่าเขาทำดี จริงซิ เขาทำดีนี้เองที่ไอ้"ตัดแปะ"กลัว
อาจจะได้รับการยกเว้นเพราะมีใบรับรองแพทย์ ให้จัดอยู่ในบุคคลประเภทที่ 10 กับ 11 ก็ได้ 10. โรคทางประสาทวิทยา (ก) จิตเจริญล่าช้า (Mental Retardation) ที่มีระดับเชาว์ปัญญา 69 หรือต่ำกว่านั้น (ข) ใบ้ (Mutism) หรือพูดไม่เป็นภาษา หรือฟังภาษาไม่รู้เรื่อง (Aphasia) ชนิดถาวร (ค) ลมชัก (Epilepsy) หรือโรคที่ทำให้มีอาการชัก (Seizures) อย่างถาวร (ง) อัมพาต (Paralysis) ของ แขน ขา มือ หรือเท้าชนิดถาวร (จ) สมองเสื่อม (Dementia) (ฉ) โรคหรือความผิดปกติของสมอง หรือไขสันหลังที่ทำให้เกิดความผิดปกติอย่างมากในการเคลื่อนไหวของแขนหรือขาอย่างถาวร (ช) กล้ามเนื้อหมดกำลังอย่างหนัก (Myasthenia Gravis) 11. โรคทางจิตเวช (แก้ไขตามกฎกระทรวงฯ ที่ 76) (ก) โรคจิตที่มีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง - โรคจิตเภท (Schizophrenia) - โรคจิตกลุ่มหลงผิด (Resistant Delusional Disorder, Induced Delusional Disorder) - โรคสคิซโซแอฟเฟ็คทีป (Schizoaffective Disorder) - โรคจิตที่เกิดจากโรคทางกาย (Other mental disorder due to brain damage and dysfunction) - โรคจิตอื่น ๆ (Unspecified Ninorganic psychosis) (ข) โรคอารมณ์แปรปรวนที่มีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง - โรคอารมณ์แปรปรวน (Manic Episode, Bipolar Affective Disorder) - โรคอารมณ์แปรปรวนที่เกิดจากโรคทางกาย (Other mental disorder due to brain damage and dysfunction and to Physical Disorder) - โรคอารมณ์แปรปรวนอื่น ๆ (Other Mood (Affective) Disorder, Unspecified Mood Disorder) - โรคซึมเศร้า (Depressive Disorder, Recurrent Depressive Disorder) (ค) โรคพัฒนาการทางจิตเวช - จิตเจริญล่าช้าที่มีระดับเชาว์ปัญญา 70 หรือต่ำกว่า (Mental Retardation) - โรคหรือความผิดปกติในการพัฒนาการของทักษะทางสังคมและภาษา (Pervasive Developmental Disorder)
มันจะมี "WHO ไม่ใช่พ่อ" อีกหรือเปล่าละคราวนี้ กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – WHO ชื่นชมนายกฯ เป็นผู้นำนโยบายสร้างเสริมสุขภาพ ยกเป็นตัวอย่างให้ประเทศอื่น ขณะที่รัฐบาลยกร่างแผนกิจกรรมทางกายชาติ 5 ยกกำลัง 3 ตั้งเป้า 5 ปี คนไทยออกกำลังกายเพิ่ม 75% ลดความเสี่ยงเกิดโรคเรื้อรัง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) แสดงความยินดีกับรัฐบาลไทยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศนโยบายสร้างเสริมสุขภาพเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วยการชักชวนให้ออกกิจกรรมทางกายเป็นประจำระหว่างสัปดาห์ของการทำงาน และกล่าวชื่นชมว่า การริเริ่มของนายกรัฐมนตรีจะเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศอื่น โดยถือว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้นำการส่งเสริมการออกกิจกรรมทางกายในระดับโลก โดยดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมทันที ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญของปฏิญญากรุงเทพว่าด้วยกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาวะโลกและการพัฒนาที่ยั่งยืน โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังยกร่างแผนยุทธศาสตร์กิจกรรมทางกายชาติ ตั้งเป้าให้คนไทยมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ จากร้อยละ 68 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 75 ในอีก 5 ปีข้างหน้า เรียกว่า ยุทธศาสตร์ 5 ยกกำลัง 3 หรือ 5x5x5 คือ 1. ดำเนินการใน 5 กลุ่มวัย ทั้งทารกในครรภ์ เด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุ 2. ส่งเสริมให้ 5 สถานที่จัดให้มีกิจกรรมทางกาย คือ สถานพยาบาล สถานประกอบการ สถานศึกษา สวนสาธารณะ และสถานีขนส่ง 3. สนับสนุนการมีกิจกรรมทางกาย คือ มีระบบสนับสนุน มีการวิจัย มีการติดตามประเมินผล มีการพัฒนาศักยภาพ และมีการสื่อสารรณรงค์ “ท่านนายกฯ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพและความก้าวหน้าทางการแพทย์และการสร้างเสริมสุขภาพที่นานาชาติยอมรับและชื่นชม รัฐบาลจึงพร้อมต่อยอดพัฒนากฎระเบียบและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เอื้ออำนวยให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี โดยเฉพาะการมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นในทุกช่วงวัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง ความดัน เบาหวาน ซึ่งมีสาเหตุหนึ่งมาจากพฤติกรรมเนือยนิ่ง หรือขาดกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม รัฐบาลจึงขอเชิญชวนเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศร่วมออกกำลังกายทุกวันพุธ เวลา 15.30-16.30 น. และรณรงค์ให้ภาคเอกชนและพี่น้องประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ในสถานที่และระยะเวลาที่สะดวก โดยสามารถเลือกประเภทของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับช่วงวัย เช่น การยืน นั่ง เดินระยะสั้น เดินเร็ว ขี่จักรยาน วิ่ง แอโรบิก หรือเล่นกีฬาทุกชนิด” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว.-สำนักข่าวไทย http://www.tnamcot.com/content/603016
"5 เรื่องแปลกแต่จริงของหนุ่มสาวออฟฟิศญี่ปุ่นที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน" Nation TV - เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย "2.เต้นกายบริหารก่อนทำงานทุกเช้าทุกวันก่อนเริ่มงานมนุษย์ออฟฟิศญี่ปุ่นหลายบริษัทจะมีกิจกรรมยามเช้าที่ต้องทำกันเป็นกิจวัตร เรียกว่า ราจิโอ ไทโซเป็นการออกกำลังกายตามจังหวะเพลง (ลองนึกภาพเด็กนักเรียนที่เค้าออกกายบริหารตอนเช้านั่นแหละ) เมื่อเสียงเพลงชวนออกกำลังกายดังขึ้นทุกคนก็จะลุกขึ้นมาเต้นกายบริหารด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง เป็นการยืดเส้นกล้ามเนื้อส่วนต่างๆเพื่อเตรียมฟิตสู้งานหนักทั้งวัน ซึ่งการทำ ราจิโอ ไทโซ ตอนเช้าของมนุษย์ออฟฟิศญี่ปุ่นเป็นการช่วยสร้างสุขภาพที่ดีและสร้างความสามัคคีในออฟฟิศได้ในแบบที่หลายคนไม่คาดคิดมาก่อนเลยนะเออ" อ่านต่อที่: http://www.nationtv.tv/main/content/lifestyle/378470653/ +++ คือ ญี่ปุ่นนี่ก็ไม่มีวัวปนเหรอ
แต่จะว่าไป หน้าตาตอนนั้นยังเป็นผู้เป็นคนอยู่นะครับ ทุกวันนี้หน้าเหมือนคนแก่ติดยาและชอบลักเล็กขโมยน้อย