เนื่องจากเป็นบทความวิชาการที่ออกมาโดยสุจริต โดยอาจารย์ทางกฎหมาย จึงขอคัดเอาบางส่วนที่เห็นว่าน่าสนใจมาให้อ่านกันดังนี้..... .......... เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว คณาจารย์ทั้งห้าเห็นว่าการอนุมัติให้ลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทชินคอร์ปในบริษัทไทยคมเป็นการใช้ดุลพินิจทางบริหาร ซึ่งเมื่อไม่มีข้อเท็จจริงใดแสดงให้เห็นว่าการใช้ดุลพินิจดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กรณีย่อมจะถือว่าการตัดสินของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเอื้อประโยชน์แก่บริษัทชินคอร์ปไม่ได้" ........... ก็ขอให้ใช้วิจารณญาณพิจารณากันครับ แต่ด้วยความที่เราเคารพต่อศาล ก็ขอวิงวอนให้กระบวนการยุติธรรมทั้งหมด คงความยุติธรรมไว้ เพื่อประโยชน์สุขและความสงบของสังคม เพราะหากไม่มีความยุติธรรม จนคนบางส่วนเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความป็นธรรม เขาอาจใช้ความรุนแรงชดเชย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคม ไม่ว่าจะสังคมใดก็ตาม http://pantip.com/topic/35528732 เอ่อ หมอเลี๊ยบตุ่ยหรือเลี๊ยบไหนครับ ที่ผมอ่านมา คำวินิจฉัยของศาลไม่เห็นเหมือนของอ.ทั้งห้าที่ว่า แล้วก็คนบางส่วน่กี่ยวข้องอะไรด้วยครับ แค่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาอาจใช้ความรุนแรงชดเชย รุนแรงแบบไหนเหรอครับ แบบเสื้อแดงรึเปล่า ขู่เหรอ ถ้าแค่ขู่ก็แปลว่า เข็ด ถ้าไม่ขู่ก็แปลว่า ไม่เข็ด
ทำไมนักกฎหมายถึงลงท้ายเหมือนขู่ละครับ ? คำพูดแบบนี้ผมคุ้นๆว่าได้ยินจากคนเสื้อแดงบ่อยๆ คำตัดสินจากศาลถือว่าเป็นที่สิ้นสุด หากไม่ยอมรับแล้วสังคมไม่ว่าที่ไหนๆก็ตาม จะอยู่กันแบบไหน อย่างไร
เรื่องนี้เอาแบบความจริงไม่อิงนิยาย คือ Here แม้วขายหุ้นลดสัดส่วนก่อน แล้วให้ Here เลี๊ยบออกกฏหมายย้อนหลังต่างหาก หมายข่าวเจาะ กับ สันติสุข มะโรงศรี ผ่าคดีหมอเลี๊ยบชันสูตรชะตากรรม ม้ารับใช้นายใหญ่ ******************************************************** ถ้าอยากเห็นชัดๆ ก็ไปอ่านในรายงานงบการเงินของบริษัทชินแชทฯ ในปี 2547 ของตลาดหลักทรัพย์ได้เลย เรื่องการออกหุ้นสามัญ เขียนไว้ในหัวข้อ "ทุนเรือนหุ้นและส่วนเกินมูลค่าหุ้น" หน้าที่ 31 http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin/datafile/FS/2004/030320040380T03.doc
เล่นกระแสให้ตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำจากความไม่ยุติธรรม เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น เขาพิจารณาเป็นธรรม ก็บอกไม่เป็นธรรม เป็นธรรมคือทักษิณและพวกไม่ผิดเหรอ และไม่ต้องมาขู่ว่า เพื่อประโยชน์สุขและความสงบของสังคม เพราะหากไม่มีความยุติธรรม จนคนบางส่วนเขารู้สึกว่าไม่ได้รับความป็นธรรม เขาอาจใช้ความรุนแรงชดเชย ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสังคม ไม่ว่าจะสังคมใดก็ตาม สังคมนี้โดนความรุนแรงของคนกลุ่มนี้มานานนับสิบปีแล้ว เคยให้ความเป็นธรรมกับคนที่โดนบ้างมั๊ย ร้องหาความยุติธรรม เคยถามกลุ่มนี้บ้างไหมเรื่องคดีแรกๆว่ายุติธรรมไหม รับซองขนม รับอามิสสินจ้างเอาญาติพี่น้องลูกหลานเข้าทำงาน เลยมีทุกวันนี้ ถ้าให้ความยุติธรรมตั้งแต่ต้น ก็เข้ามามีอำนาจไม่ได้ เรื่องเลวๆคดีความแบบนี้คงไม่รกศาล ทุกอย่างมันเป็นกรรมนะ
ไทโรไม่เป๊ะหรอก เมื่ออิงนิติราษฎร์ก็เข้ารกเข้าพง จะมาว่าเป็นกลางได้อย่างไร “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เป็น 1 ใน 5 อาจารย์นิติศาสตร์เสียงข้างน้อยกลุ่มเดียวกับ “วรเจตน์ ภาคีรัตน์” เป็นหนึ่งใน คณะนิติราษฎร์ ที่เราๆท่านๆรู้กิตติศัพท์ คณะนิติราษฎร์มีสมาชิกดังนี้ จันทจิรา เอี่ยมมยุรา ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล ธีระ สุธีวรางกูร ปูนเทพ ศิรินุพงศ์ ปิยบุตร แสงกนกกุล วรเจตน์ ภาคีรัตน์ สาวตรี สุขศรี
แนวคิดนักวิชาการแบบปิยบุตร (นักวิชาการที่ออกมาโดยสุจริต ??) นอยด์แต่เรื่อง "สงครามกลางเมือง" ยุคหนึ่งที่แดงกับเหลืองห้ำหั่นกันที่ถนน มีกระแสสะพรึงกลัวเกิดสงครามกลางเมืองในบ้านเมืองเรา ในเว็บเราก็มีคนมาโพสอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เห็นมีเหตุปัจจัยอะไรที่จะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นมาได้ตราบเท่าที่กองทัพยังเป็นปึกแผ่น และฝ่ายแดงฮาร์ดคอร์ยังอาศัยแต่ท่อน้ำเลี้ยงของไอ้เหลี่ยม ..ไม่ได้มีกองกำลังของตัวเองที่พัฒนาจนแข็งกล้าเป็นจริง ปิยบุตร คนออกหน้า 1 ใน 5 นักกฎหมาย(อิงวิชาการ ฮิฮิ) ยุคนั้นเดินสายปลุก ความตื่นกลัวสงครามกลางเมืองจนออกนอกหน้า กลัวจะมี หรืออยากให้มีกันแน่ ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกที่วาทะของนักวิชาการพวกนี้จะฟังดู งง ว่ายุยงให้มีการก่อความรุนแรงตอบโต้การตัดสินที่ไม่ถูกใจบางฝ่ายหรือเปล่า ให้ความเห็นเชิงวิชาการ แต่ท้ายความเห็นก็เสี้ยมบางอารมณ์ทิ้งไว้ให้สังคมหรือไม่ คลิป บางตัวอย่าง ปิยบุตร แสงกนกกุล: มีแต่ประชาธิปไตยที่จะหนีสงครามกลางเมืองพ้น
บอกตรง ๆ ว่าผมไม่มีความรู้กฏหมาย คือเกือบจะ รู้ไม่เกิน ต้องแค่ทำบัตรประชาชน ต้องเสียภาษี ประมาณนี้ เรื่องอื่น ไม่รู้เลย แต่จริง ๆ ผมชอบศาล ระยะหลังนะ ที่ไม่มองแต่หลักกฏหมาย แต่มองเจตนาของจำเลยเป็นหลัก กรณีหมอเลี๊ยบอะ คุณลองถาม วิน มอเตอร์ไซค์ หรือ รปภ ที่ชอบวิจารณ์การเมืองดูนะ (ยกเว้น เค้าเป็นเสื้อแดงนะ นั่นจะมี แนวโน้มเข้าข้าง หน้าเหลี่ยม) เค้าจะมองง่าย ๆ พื้น ๆ คือ เลี๊ยบเป็นลูกน้อง หน้าเหลี่ยม หน้าเหลี่ยม ต้องการขายหุ้นให้ สิงคโปร์ แต่ติดกฏหมาย เลี๊ยบแก้กฏหมาย ให้หน้าเหลี่ยม เสร็จแล้ว หน้าเหลี่ยม เลยขายหุ้นได้ นี่ไง มองต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แบบนี้ ก็มองเจตนาออกแล้ว ไม่ต้องไปมองถึงว่า ทำไปแล้วอนาคต จะดีกับใคร หรือ จะแย่กับใคร ผิดหลักกฏหมาย หรือ หลักเศรษฐศาสตร์ หรือเปล่า พวกความรู้แบบเรา ๆ ไม่เคยได้ไปมองถึงตรงนั้นแหละ แต่ก็เพราะมองแค่นี้ล่ะ มันก็เลยเห็นเจตนา ถ้าไปฟังคำแก้ตัว ยกแม่น้ำทั้งห้าของทนาย เลี๊ยบ ก็คงมองข้ามเจตนา ที่สภากาแฟ ตามเพิง วิน มอเตอร์ไซค์ ก็ยังดูออก ไปเสียอย่างนั้นอะ
โลกสวยเกินไปแล้ว รู้สึกว่าเอาสังคมและประชาชนเป็นตัวประกัน แล้วแอบอ้างประชาธิปไตยเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ประชาธิปไตยไม่เคยแก้ไขความรุนแรงในบ้านเมืองได้ ตั้งแต่ยังไม่มีสีเสื้อ เพราะการเมืองทุกระดับแข่งขันได้โหดมาก ต่างจังหวัดก็มียิงหัวคะแนนกัน ผู้แทนราษฎรไม่ใช่ผู้แทนราษฎรอย่างแท้จริง เป็นผู้มีอิทธิพลประจำท้องถิ่นเสียมาก ที่สุดแล้ว ถ้าไม่แก้ไขจิตสำนึกของตัวเอง ไม่เห็นแก่บ้านเมือง มันก็จะได้แค่ประชาธิปไตย ที่ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างภาพ
ไทโร เปลี่ยนไป เห็นมาเยอะทีเดียว คนไหนที่ไปอยู่ข้างแม้ว มักจะเละทางข้อมูล ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะแก้ต่างให้พวกไอ้แม้ว ข้อมูลเลยเป๋ๆ
คนเสื้อแดงกลุ่มไหนล่ะที่นิยมชมชอบความรุนแรง เป็นขบวนการเสื้อแดงสายที่ใช้เงินไอ้เหลี่ยมหรือเปล่า แหม พอแตะเข้าไป สิ่งเลวๆก็ต้องถูกราดรดด้วยน้ำเงินของมันทุกทีสิน่า 'ฮาร์ดคอร์ใต้ดิน' : กรรมเก่าของเสื้อแดง? : กระดานความคิด บทความโดยบางนา บางปะกง พลันที่เกิดเหตุความรุนแรงใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ไม่แปลกใจที่แกนนำ นปช. จะต้องออกมาแถลงข่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าพวกตนไม่เกี่ยวกับการก่อเหตุรุนแรง และนปช.ยึดมั่นในแนวทางสันติ ประเด็น “ความรุนแรง” กับขบวนการคนเสื้อแดง ได้ถูกหยิบขึ้นมาโจมตีอยู่บ่อยครั้งจากฝ่ายตรงข้าม แต่แกนนำ นปช.ก็แก้จุดอ่อนนี้ไม่ตก ข้อเท็จจริงในช่วงเวลาที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย, แกนนำ นปช. และคนเสื้อแดงจำนวนมากไม่เคยยอมเผชิญกับความจริง เรื่องมีการใช้อาวุธในหมู่ “ฮาร์ดคอร์”เสื้อแดง จริงๆแล้ว กลุ่มฮาร์ดคอร์ที่ใช้อาวุธนั้นแฝงตัวอยู่ในขบวนการมานานแล้ว และภายในคนเสื้อแดงระดับหัวแถวก็รับทราบถึงการเคลื่อนไหว “ใต้ดิน”แบบนี้ เพียงแต่ปิดปากเงียบ ปัดความรับผิด แต่แอบกระหยิ่มยิ้มย่องเวลามีความรุนแรงในบ้านเมือง ในอดีต ฮาร์ดคอร์เสื้อแดงรวมตัวกันที่สนามหลวงตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 2549 มี “อดีตฝ่ายซ้าย” ที่ไม่ใช่ “เซเล็บเดือนตุลา” คนพวกนี้ได้จัดตั้ง “กลุ่มปิดลับ” ขึ้นมาโดยวางยุทธศาสตร์จัดตั้ง “กองกำลัง” และใช้ยุทธวิธี “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”สู้กับทหารยุคนั้น หลังการรัฐประหาร 2557 มีการตรวจพบอาวุธสงครามที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในเขตทุ่งครุ ก็มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มฮาร์ดคอร์สนามหลวง ปัจจุบันแกนนำฮาร์ดคอร์ที่ไม่ถูกจับกุมได้หลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ไม่สุขสบายเหมือนกับสมัยปี 2553 เพราะเจ้าบ้านได้ห้ามพวกนั้นแสดงตัวตน และประกอบอาชีพโดยเสรี สาเหตุที่ “เพื่อนบ้านฝั่งซ้าย” เปิดบ้านให้คนเสื้อแดงหลบภัยก็เพื่อเป็นการตอบแทน “คนแดนไกล” เป็นการเฉพาะ แต่เพื่อไม่ให้คสช.ระแวง จึงจำกัดการเคลื่อนไหวของฮาร์ดคอร์ หากคนไหนไม่อยู่ในระเบียบวินัย ก็จะส่งตัวกลับฝั่งขวาทันที เมื่อไม่กี่วันมานี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังพูดเหน็บแนมแกมประชดว่า “คนบ่ดี” ก็ให้เพื่อนบ้านดูแลต่อไป ด้วยทหารไทยก็รู้เรื่องคนกลุ่มนี้ ดี และฝ่ายความมั่นคงได้ตามติดมาตลอด ถ้าใครเคยฟัง “คลิปใต้ดิน” ก็จะทราบว่าเมื่อเร็วๆ นี้ เกิดการขัดแย้งผลประโยชน์กันของเสื้อแดง “กลุ่มฮาร์ดคอร์” ที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน สุรชัย แซ่ด่าน แกนนำกลุ่มแดงสยาม อัดคลิปแฉ “ใหญ่ พัทยา” ว่า เป็น “นกต่อ” ของฝ่ายทหาร โดยสองปีที่แล้ว “ใหญ่” ถูกทหารใช้ประสานงานกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์และวางแผนก่อเหตุโดยใหญ่อาสาจัดหาระเบิด RPD5 ให้ “มหาหิน” ใช้ก่อเหตุปาระเบิดศาลอาญา รัชดาฯ จนคนเสื้อแดงถูกจับกุมนับสิบคน ฝ่าย “ใหญ่ พัทยา” ก็เปิดโปงสุรชัย แซ่ด่าน ว่าเป็นพวกขี้โม้หักหลังพี่น้องเสื้อแดง โดยแอบนำรายชื่อคนเสื้อแดงที่หลบภัยอยู่ในฝั่งซ้ายไปขอเงินแบบนับหัวจาก “คนแดนไกล” แต่พอได้มาแล้วก็มีการหักหัวคิว และเอามาปล่อยกู้ให้คนกันเอง อย่างไรก็ตาม “ใหญ่ พัทยา” ก็ไม่ปฏิเสธเรื่องกิจกรรมใต้ดิน และยอมรับว่า แผนการปาระเบิดของมหาหินและพวก เป็นเรื่องจริงที่มีการวางแผนจากแดงนอกประเทศ สิ่งที่เรียกว่า กิจกรรมแดงใต้ดินนั้นดำรงอยู่ในขบวนการเสื้อแดงมานานแล้ว แต่แกนนำระดับบนมิทราบเรื่องใน “ทุกกรณี” เพราะหลายกรณีเป็นเรื่องของ “แดงบ้านบ้าน” จัดการกันเอง ความล้มเหลวในการต่อสู้ใต้ดินของกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ ก็มาจากจากปัญหา “แดงบ้านบ้าน” นั้นไม่ใช่นักปฏิวัติที่มีอุดมการณ์แจ่มชัด ไม่มีระเบียบวินัยที่เคร่งครัด ซึ่งพอเอาเข้าจริงแล้ว ก็เป็นพวกอนาธิปไตย ชอบทำงานเอาแต่ใจไม่รอบคอบ ทำงานแบบสุ่มเสี่ยง คลิปใต้ดินที่มีรายการแฉกันแหลกจากฝั่งซ้ายจัดว่าเป็นเอกสารประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่งที่ว่าด้วยชะตากรรมฮาร์ดคอร์ในฝั่งซ้าย ใครได้ฟังต้องพยักหน้ากันอย่างหยามหยันเสื้อแดงบางกลุ่มที่ขยันผันเงินจากกระเป๋า “คนแดนไกล” แล้วนำมาทำการเมืองแบบอนาธิปไตย สร้างความล้มเหลวให้ขบวนการมานานแสนนาน
ขนาดตัดสินคดีตัวพ่ออย่างแม้ว ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วนายปิยบุตรคิดว่า คดีลิ่วล้อแบบนายเลี๊ยบนี่ จะมีประชาชนออกมาประท้วงมืดฟ้ามัวดินเหรอครับ ผมขำ
ก็ลูกจ้างปลอบใจกันเองล่ะนะ เคยเห็นไหมเวลาสมุนโจรโดนทำร้ายมา สมุนคนอื่น ๆ ก็มาปลอบใจกันแล้วก็มีประมาณว่า คอยดูนะสักวันนึงพวกมันจะได้รับการแก้แค้นอย่างสาสม อะไรประมาณนั้น
เป็นบทความเห็นต่างเชิงวิชาการของข้อกฎหมาย แต่ในกระทู้นี้ เท่าที่เห็นนะ ไม่ได้พากันแย้งเขาด้วยสติปัญญา เพราะไม่มีปัญญาความรู้ในเชิงวิชาการไปแย้งเขากัน คงได้แต่เมนต์ ก๊อกๆ แก๊กๆ แสดงออกในเชิง วิชาการบ่นด่าของกุ {ฮาๆๆๆ}
ผมยอมรับว่าไม่ได้เป็นผู้รู้ในเรื่องกฎหมายแบบพวกนักกฎหมายเขา ก็เหมือนกับพวกเสื้อแดงนั่นแหละ แต่ข้อแตกต่างก็คือ ผมเคารพศาล และไม่หลงไปกับคำพูดของพวกนักโทษหนีคดีที่มาด่าศาลครับ เพราะผมเห็นนักโทษทั้งหลายก็บอกว่าตนไม่ผิด ศาลตัดสินผิดกันทั้งนั้น ถ้าผมจะเชื่อนักโทษหนีคดีที่มีเงินจ้างผีโม่แป้ง จ้างนักการเมือง จ้างสื่อ จ้างลูกน้องมาคอยโพสต์กระทู้บ้องตื้น ๆ ผมก็ต้องเชื่อนักโทษคนอื่น ๆ ที่เป็นคนธรรมดาไม่มีเงินไม่มีอะไรด้วยไหม?
จะให้ไปเถียงกับพวกสีข้างเข้าแถกเลยรึ แค่เขียนมาตรงนี้ก็อวดสีข้างแล้ว "เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงต่างๆที่ได้กล่าวมาแล้ว คณาจารย์ทั้งห้าเห็นว่าการอนุมัติให้ลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทชินคอร์ปในบริษัทไทยคมเป็นการใช้ดุลพินิจทางบริหาร ซึ่งเมื่อไม่มีข้อเท็จจริงใดแสดงให้เห็นว่าการใช้ดุลพินิจดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว กรณีย่อมจะถือว่าการตัดสินของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเอื้อประโยชน์แก่บริษัทชินคอร์ปไม่ได้" ข้อเท็จจริง คือชินคอร์ปเป็นคนเสนอขออนุญาติลดสัดส่วนมาทาง นช. เลี๊ยบ แล้วเลี๊ยบจัดให้ แบบนี้ไม่เรียกเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป รึ เมื่อเรื่องต้องเข้า ครม. แต่ ไม่ได้เอาเข้า แล้วไปดื้อด้านอนุมัติเองส่งเดช แบบนี้ไม่เรียกว่า ดุลย์พินิจ ไม่ชอบด้วยกฏหมาย สงสัย นักวิชาการต้อง ชวน ๆ กัน กับไทโร ไปหัดอ่านภาษาไทยกันใหม่แล้วมั้ง หึ ๆ
มันเป็นเป็นบทความเห็นต่างเชิงวิชาการของข้อกฎหมายตรงไหนวะ ไม่มีปัญญาปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชน ทิ้งพรรค ยอมจำนน เกือบจะสูญพันธ์ เหลือแต่ทรากเดนคอมฯ ได้จังหวะเห็นนายทุนมีเงินมีอำนาจ แถถลาเข้าไปขอเป็นขี้ข้า คงได้แต่เมนต์ ก๊อกๆ แก๊กๆ แสดงออกในเชิง วิชาการบ่นด่าของกุ {ฮาๆๆๆ}
