ภูทับเบิกเดือด ประชาชนสู้ทั้งน้ำตา-วอนท่านผู้นำเห็นใจ เผยแพร่เมื่อ 22 ส.ค. 2016 ขอบคุณที่มา: @มดงานมีเดีย หล่มสักเพชรบูรณ์ ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@ณัฐพงศ์ เสาทอน
น่าจะเปลี่ยนเป็น หู หู หู หู น้องเคยมีหู หรือป่าว... ฟังเสียงเสื้อแดงติดคุกบ้างนะ อย่ามุ่งแต่กด...คีย์บอร์ด
เขาฟ้องกันจบไปแล้ว... ซึ่งจะปฏิบัติกับผู้ประกอบการที่ถูกศาลพิพากษาให้ออกจากพื้นที่และรื้อถอนจำนวน 13 ราย ตั้งแต่ พ.ศ.2555-25557 ที่จำเลยไม่เคยปฏิบัติตามคำสั่งของศาล http://www.thairath.co.th/content/658694
พวกร่านคลั่งศัพท์มาร์กซิสมักจับแต่ปลายเหตุ ไม่สนปัจจัยแห่งปัญหา ลำพังถ้าภูทับเบิกมีแต่คนท้องถิ่นหากินกับแค่การปลูกผักแล้วหาบลงมาขาย มันไม่ดังระเบิดขนาดนี้หรอก แต่เพราะลิเบอร่านดัดจริตอยากไป "ชาร์ตแบต" จากวันทำงานบนป่าเขาที่พอตะเกียกตะกายขึ้นไปได้ ก็เกิดลัทธิเอาอย่างเลียนแบบกันไปชาร์จแบตจนป่ากระจุย ฝ่าย"ทุน"ก็ขานรับไปรุกป่าจนทับเบิกวันนี้รถติดไม่แพ้พารากอน ผู้มีองค์รัฐาธิปัตย์ไปไล่"ทุน"ที่ไปกระดี้กระด้าสร้างรีสอร์ทรับเงินลิเบอร่านดัดจริต แล้วมาอ้างตัวว่าเป็นประชาชนที่รับเงินจากออเดอร์การจองรีสอร์ทมาหลายเดือนแล้ว ผู้มีองค์รัฐาธิปัตย์ทำผิดตรงไหนหรือเด็กน้อย __ ฮาว่ะ คริคริ
ไอ้พวกขี้ข้านาย ไม่รู้มันจะครางครวญอะไรของมัน รอเลือกตั้งเฮอะุ นายเองมีอำนาจเองได้รับใช้นายสุดหัวใจยันสุดตีนเองแน่ๆ
เข้ามาอ่านอีกที คำว่า "ยุคกปปส เรืองอำนาจ" สรุปว่า ตอนนี้ กปปส เป็นรัฐบาล ว่างั้นเถอะ........ เขายุติบทบาท ไม่ออกมาแสดงความเห็น ผิด กับอีกฝ่ายที่ดิ้นกันเป็น....ถูกน้ำร้อน
ใกล้จบแล้ว พรุ่งนี้ (28 สค 59) ถึงเส้นตายการขอเวลารื้อถอนจากนายทุนเจ้าของรีสอร์ท 19 แห่งที่โดนคำสั่งรื็้อถอน ที่ตอนนี้ต่างรื้อขนออกเท่าที่จะขนไปได้ เหลือแต่เสาและปูนรอทุบทิ้ง อิอิ ชัดขนาดนี้รื้อสถานเดียว!!! ผู้นำม้งแฉเอง"ภูทับเบิกเละเทะ" เพราะนายทุนเห็นแก่ตัว และชาวบ้านก็ผิดเอาพื้นที่เกษตรไปปลูกรีสอร์ท จากกรณีที่มีกลุ่มนายทุนและชาวม้งบางส่วนออกมาคัดค้านการเข้ารื้อถอนรีสอร์ทในพื้นที่ภูทับเบิกและศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการเพราะกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการระดมผู้คนปิดทางเข้า-ออกพื้นที่เพื่อกดดันการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และมีการเรียกร้องให้มีการทบทวนคำสั่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช. รวมถึงมีการขับไล่ให้เจ้าหน้าที่ออกพ้นพื้นที่ ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังพบว่า พื้นที่ภูทับเบิกไม่ใช่อุทยานแห่งชาติและป่าสงวน แต่เป็นพื้นที่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ ต่อมาในปี 2509 คณะรัฐมนตรีมีมติให้กรมป่าไม้ มอบที่ดินให้กับกรมประชาสงเคราะห์ ซึ่งปัจจุบันคือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กว่า 175,000 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็นนิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขา ให้ชาวเขาเข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดินทำการเกษตร จากนั้นในปี 2544 หลังเกิดเหตุดินโคลนถล่มครั้งใหญ่ในพื้นที่ ในปี 2545คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้คืนที่ดินให้กรมป่าไม้ ซึ่งภายหลังมีการกันพื้นที่และประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาค้อ โดยยังเหลือที่ดินให้ชาวเขาใช้สอย 47,000 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ที่ภูทับเบิก และบ้านดอยน้ำเพียงดิน อำเภอหล่มเก่า จำนวน 12,000 ไร่ และที่อำเภอเขาค้ออีกราว 3 หมื่นไร่เศษ โดยภาครัฐยังกำหนดให้เป็นที่ทำกินและทำการเกษตร ให้สิทธิชาวเขาประมาณ 3,500 ราย ปลูกกระหล่ำปลีเป็นหลัก ทางด้านนายใจ แซ่เถา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 บ้านทับเบิกร่วมใจ ยอมรับว่าแม้ในช่วงหนึ่งจะมีข้อตกลงในการสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวระหว่างชาวบ้านกับภาครัฐ แต่ก็มีการพูดกันชัดว่าจะพัฒนาไปในลักษณะของการรักษาสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติของพื้นที่ไว้ให้มากที่สุกและให้ชาวม้งคงการปลูกกะหล่ำปลีไว้ เพราะภูทับเบิกขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุด แต่เมื่อการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นและนักท่องเที่ยวต้องการความสะดวกสบายจึงมี นักลงทุนหันมาจัดตั้งรีสอร์ทมากขึ้น โดยบางแห่งมีเงินทุนจำกัดทำให้จำเป็นต้องลดต้นทุน ด้วยการสร้างบ้านพักแบบชั่วคราวกึ่งถาวรจึงไม่แข็งแรง และมีการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนหน่วยงานราชการคุมไม่อยู่ และการสร้างสิ่งก่อสร้างรุกพื้นที่ป่า ทำให้เริ่มมีปัญหากับชาวม้งในหมู่บ้าน ประกอบกับการที่ทรัพยากรถูกนำไปใช้กับธุรกิจรีสอร์ท รวมทั้งมีขยะจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัญหาการจราจรติดขัดซึ่งเป็นที่ลำบากใจของทุกคนแต่ทุกคนก็ออกมาพูดไม่ได้เพราะธุรกิจส่วนใหญ่ก็เป็นญาติพี่น้องกัน และแม้จะเคยขอให้หน่วยงานราชการเข้ามาจัดการแต่ก็เคยไม่สำเร็จ ทั้งนี้พบว่ามีนักลงทุนเข้ามาขอซื้อที่ดินจากชาวม้งอย่างต่อเนื่องเพราะการ ท่องเที่ยวบูมมาก ทำให้ราคาที่ดินที่มีทำเลดีทีราคาสูงถึงไร่ละ 1-3 ล้านบาท หากกรณีที่ชาวม้งไม่ขายก็จะทำสัญญาเช่าโดยเสนอราคาค่าเช่าที่ดินสูงให้ถึง 4-6 แสนบาทต่อปี บางรายไม่เพียงทำสัญญาเช่านานถึง 5-10 ปี แต่นายทุนยังเสนอยกสิ่งปลูกสร้างให้หลังหมดสัญญาเช่าแล้ว จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ที่ดินถูกเปลี่ยนมือหรือเปลี่ยนครอบครอง ทางด้าน นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ ยืนยันว่า การดำเนินการรื้อถอนรีสอร์ทผิดกฎหมายครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับราษฎรชาวเขาที่อาศัยอยู่บนภูทับเบิกซึ่งประกอบอาชีพเกษตรกรรมแต่อย่างใด เพราะได้รับอนุญาตให้อยู่อาศัยตั้งแต่ปี 2509 แต่มีบางส่วนที่มาประกอบธุรกิจในเชิงสถานที่พักตากอากาศ รีสอร์ท โดยมีนายทุนจากภายนอกเข้ามาดำเนินการและก่อสร้างไม่ถูกต้อง โดยบางแห่งไปปิดขวางทางน้ำและพื้นที่เสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม จึงขอให้รื้อถอนออกไปก่อน และให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำสั่งของทางเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และเกิดความสวยงามของภูทับเบิก http://deeps.tnews.co.th/contents/200957/
หมดเนื้อหมดตัวก็เป็นความเสี่ยงของธุรกิจพวกท่านที่ต้องรับผิดชอบเองหรือเปล่า นี่ยังต้องมาเอาเงินภาษีของพวกหนูไปเยียวยาพวกเอาเปรียบรัฎฐาธิปัตย์อีกหรือนี่ __ ฮา 19 รีสอร์ทภูทับเบิก ไม่กล้าฝืนคำสั่งเร่งรื้อถอนเอง หลังผู้ว่าฯ ยืดเวลาให้ 7 วัน ความคืบหน้า หลังผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ยืดเวลาให้ 19 รีสอร์ทภูทับเบิก รื้อถอนเองออกไปอีก 7 วัน หากครบกำหนดยังไม่แล้วเสร็จทางเจ้าหน้าที่จะเดินหน้ารื้อถอนให้ ล่าสุด ทางเจ้าของและผู้ประกอบการรีสอร์ททั้ง 19 แห่ง ที่ถูกสั่งรื้อ ส่วนใหญ่เริ่มทำการรื้อถอนกันเองโดยไม่มีการขัดขืน โดยเฉพาะในรายของร้านค้าคานาอัน ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดปัญหามีกลุ่มชาวม้งลุกฮือขึ้นมาต่อต้าน ปรากฏว่า ได้มีการระดมญาติพี่น้องราว 30 คนเข้ามาช่วยกันรื้อถอน และเนื่องจากโครงสร้างเป็นเหล็กจึงมีการใช้แก๊สตัดออก นายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ กล่าวว่าการใช้เครื่องจักรรื้อถอนมีความจำเป็น ซึ่งทางฝ่ายรื้อถอนกับฝ่ายโยธาธิการจังหวัดจะประเมินว่า จะใช้เครื่องจักรชนิดใดเพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ หากไม่ใช้เครื่องจักรจะใช้เวลากี่วัน ความยุ่งยากความล่าช้าย่อมต้องเกิดขึ้นแน่นอน โดยในช่วง 2 วันที่เจ้าหน้าที่ทำงานภายใต้ขอบเขตของกฎหมายและด้วยความสุภาพ มีการช่วยงัดช่วยรื้อขนของวางเรียงแยก บางส่วนเท่านั้นที่ใช้เครื่องจักรเพราะโครงสร้างเป็นเหล็กตัวซี และเศษวัสดุก็จัดเก็บให้ดูเรียบร้อยไม่อยากให้มีภาพเศษกองวัสดุใหญ่จากการรื้อถอนถูกกองไว้ ขณะที่ นายชาญวิทย์ เฟื่องฟูกิจการ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายสมาคมพ่อค้าม้งไทย และที่ปรึกษากลุ่มผู้ประกอบการชาวม้งภูทับเบิก กล่าวว่า หลังการประชุมแล้วชาวบ้านเกิดความสิ้นหวัง เวลานี้กำลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างด้วยน้ำตา เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย คงจะต้องปล่อยให้เลยตามเลย หากจะสู้ต่อไปยิ่งสู้ก็ยิ่งรุนแรง ส่วนเรื่องมาตการเยียวยาหากรัฐบาลมีความจริงใจ และทำเรื่องนี้จริงจังมีการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดรวมทั้งการจะดำรงชีพต่อไปของเขา ซึ่งจริงๆก็อยากให้ส่งเสริมการดำรงชีพเพราะบางคนต้องหมดเนื้อหมดตัว ต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อก่อสร้าง http://news.mthai.com/hot-news/general-news/515014.html
นี่คือประเทศไทยครับ ที่ดินสวย วิวสวย ก็ดิ้นรนไปปลูกบ้าน รีสอร์ทกัน ผิดถูกกฏหมายอย่างไรไว้ค่อยไปแก้ไขกันทีหลัง ต่างคนต่างกลัวพลาดโอกาสก็พร้อมใจแข่งกันสร้างอาคารบ้านพัก ในที่สุดก็เหมือนหมู่บ้านจัดสรรคุณภาพต่ำ เปิดหน้าต่างออกไปก็จ๊ะเอ๋กับเพื่อนบ้าน ดูภูเรือซิครับ พวกพ่อค้าและข้าราชการบุญหนักศักดิ์ไปปลูกบ้านกันแน่นขนัด ที่แย่มากๆก็คือปลูกบ้านโดยไม่คำนึงเลยว่าสถาปัตยกรรมเข้ากับภูมิประเทศหรือไม่ ผมเห็นเสาบ้านแบบกรีกแบบโรมัน ตอนแรกคิดว่าเป็นวิหารพาร์เธนอนในกรีซ ขอบคุณรสช.ที่จัดการเรื่องนี้ ยังไงอย่าลืมวังน้ำเขียว ภูเรือ ฯลฯ ด้วยนะครับ
ขำลิเบอร่าน ตัดตอนโหน "ประชาชน" ตามสูตรมาร์กซิสหวังมาโชว์ศัพท์รัฏฐาธิปัตย์ ที่แท้ สิ่งที่คุณโหน มันโหนได้จริงหรือเปล่า ทำเอาถึงกับถล่มลงมากองตรงหน้าเห็นๆ คราวหน้าตั้งกระทู้ใช้ภาษาบ้านๆก็ได้ และหาข้อมูลที่มาที่ไปให้ถ่องแท้ แล้วค่อยถกเถียงกัน จะได้อรรถรสกว่าเยอะเลย
ทส.ลุยตรวจป่าภูเรือ คิวต่อไป ...ที่จ.เลย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะเจ้าหน้าที่ได้เปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า นำโดย นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายไพโรจน์ ปานสมุทร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันตรวจสอบและดำเนินคดีกับบุคคลผู้ครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ ทั้งนี้ได้ทำการตรวจสอบ 3 รีสอร์ทใหญ่ บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูเรือ ได้แก่วรัญญารีสอร์ท สโรชารีสอร์ท และธารพระพรรีสอร์ท ซึ่งบุกรุกที่อุทยานฯภูเรือชัดเจน รวมพื้นที่กว่า 44 ไร่ โดยทั้งหมดที่มีการตรวจยึดพื้นที่ 4 แปลงที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ของวรัญญารีสอร์ท 7 ไร่ สโรชารีสอร์ท 7 ไร่ และธารพระพรรีสอร์ท 1 ไร่ และยังมีอีก 29 ไร่ที่เบื้องต้นพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้มีพื้นที่บุกรุกที่ต้องเข้าไปตรวจสอบทั้งหมด 7.5 หมื่นไร่ที่ต้องเร่งดำเนินการต่อไป .. http://m.naewna.com/view/breakingnews/183710
ขอบคุณครับ ผมบอกเมียว่าห้ามชวนไปพักรีสอร์ทที่รุกล้ำหรือสงสัยว่ารุกล้ำที่สาธารณะ เมียบอกว่าคิดมากไปเพราะถ้าจะกรองจริงๆแล้วจะเหลือที่ให้ไปอยู่ไม่กี่แห่ง เมื่อต้นปีไปน่าน พักที่พูคาน่านฟ้าของคุณบัณฑูร ชอบโรงแรมและตัวเมืองน่านมากครับ ชอบตลาด ชอบพิพิธภัณฑ์ ชอบร้านขายเครื่องเงิน ชอบอำเภอปัว แต่พอออกไปนอกเมือง เห็นอุโมงค์ต้นไม้ส่วนหนึ่งถูกตัดทำถนน เห็นภูเขาหัวโล้นดาษดื่นไปหมด รู้สึกหดหู่ครับ เมียอยากกลับไปน่านอีกแต่ผมขอคิดดูก่อน
ข่าวเก่าปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2558 พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดเผยภายหลังเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ว่า แนวทางแก้ปัญหาภูทับเบิก ทหารจะเข้าไปช่วยทางจังหวัดเพชรบูรณ์ให้บริหารจัดการพื้นที่ให้ดี โดยยึดหลักกฎหมาย ถ้าพื้นที่ใดทำผิดกฎหมาย ก็จะต้องดำเนินการให้ถูกต้อง หากพื้นที่ใดประชาชนไม่เข้าใจก็จะเข้าไปทำความเข้าใจ เพื่อจัดระเบียบแหล่งท่องเที่ยวภูทับเบิกให้มีประสิทธิภาพ รายงานข่าวแจ้งว่า หลังป่าไม้ทำการจับกุมรีสอร์ทสร้างใหม่และพบหลักฐานการเช่าที่ดินระหว่างนายทุนจากกรุงเทพมหานครกับชาวม้งในพื้นที่ ทำให้ล่าสุดมีการจับตาเพ่งเล็งไปยังเครือข่ายนายหน้าติดต่อซื้อขายที่ดินภูทับเบิกและบ้านดอยน้ำเพียงดิน โดยมีการตั้งข้อสังเกตและสมมุติฐานว่า หากไม่มีคนในพื้นที่หรือนักการเมืองท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ของรัฐคอยเป็นคนกลางเชื่อมโยง การซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินบนภูทับเบิกและบ้านดอยน้ำเพียงดินซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ คงเกิดขึ้นได้ยาก นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องสถาบันการเงินบางแห่ง มีนโยบายปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าโดยการใช้แค่ตัวบุคคลค้ำประกันกันเอง รวมทั้งยังให้วงเงินกู้ยืมค่อนข้างสูง ถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่เชื้อเชิญให้ราษฎรชาวไทยภูเขาบนภูทับเบิกและบริเวณข้างเคียงตัดสินใจทิ้งไร่กะหล่ำปลี หันมาทำธุรกิจการท่องเที่ยวในเชิงพาณิชย์จนกระทั่งทำให้อาคารบ้านพักรีสอร์ทบนภูทับเบิกและบ้านดอยน้ำเพียงผุดขึ้นเป็นจำนวนมาก http://pantip.com/topic/34380102
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการรุกล้ำที่ดินสาธารณะ ผมจึงอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯต่ออีกสักห้าปี สมัยรัฐบาลเลือกตั้ง แค่จะขวางพ่อค้านักการเมืองหิวเงินไม่ให้มาฮุบสมบัติชาติ คนไทยจิตใจรักชาติทั้งหลายก็เหนื่อยแย่แล้ว มีความพยายามของพ่อค้าที่จะผลักดันการตัดถนนจากกำแพงเพชรตรงสู่อำเภออุ้มผางผ่านทุ่งใหญ่นเรศวร ปัจจุบันเรายังต้องขับรถไปทางจังหวัดตาก เลี้ยวซ้ายไปแม่สอด และต้องขับผ่านเทือกเขาสู่อำเภออุ้มผาง ทางตรงจากกำแพงเพชรสู่อุ้มผางจะทำให้การเดินทางโดยรถยนตร์สู่อุ้มผาสะดวกขึ้นมาก แแต่เสน่ห์ของอุ้มผางและน้ำตกทีลอซูย่อมลดลง ที่สำคัญทุ่งใหญ่นเรศวรคงจบลงแบบวังน้ำเขียว ภูเรือ ภูทับเบิก ฯลฯ พอถึงรัฐบาลเลือกตั้ง พ่อค้าคงผลักดันถนนสายนี้อีกครั้ง
เหนื่อย ข้าราชการกับนักการเมืองท้องถิ่นนั้นแหล๊ะตัวแสบ ไม่ยึดตามกฏหมายแต่ไปยึดตามนโยบายที่ขัดกับกฏหมาย เรื่องแบบนี้มันมีมานาน