ผมขอยกมาแค่บางตอนที่เป็นสาระสำคัญนะครับ ---------------------------------------------------------------------------------------------------- การสำรวจความเห็นประชาชนครั้งนี้น่าจะเป็นโพลที่สมบูรณ์เพราะเป็นการร่วมมือกันระหว่าง กมธ., สถาบันพระปกเกล้า และสำนักงานสถิติแห่งชาติ และถามความเห็น ของกลุ่มตัวอย่างถึง 5,800 ตัวอย่างในทุกภาค สถาบันพระปกเกล้าและสำนักงานสถิติแห่งชาติ เป็นระดับมืออาชีพจึงน่าจะทำถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยไม่มีวาระซ่อนเร้น เรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีและ ส.ว. ร้อยละ 70.1 ระบุว่า นายกฯต้องเป็นหัวหน้าพรรคการ เมืองและมาจากการเลือกตั้ง อาจกล่าวได้ว่าหลักการ “นายกฯต้องเป็น ส.ส.” กลายเป็นประเพณีของระบบรัฐสภาไทยไปแล้ว เพราะสืบทอดกันมานานกว่า 40 ปี แต่ประเพณีนี้กำลังจะถูกทำลาย เพื่อถอยหลังกลับไปอีกหลายทศวรรษ ทั้งยังจะให้รัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส.ต้องพ้นจาก ส.ส.อีกต่างหาก ขัดประเพณีระบบรัฐสภาและจะทำให้นักการเมืองถูกลอยแพและไม่มีที่ยืนเมื่อถูกปรับออกจากรัฐมนตรี. http://www.thairath.co.th/content/486436
ถ้าโพลออกมาต่างจากนี้คงแปลก คณะกรรมาธิการร่าง รธน อาจจะได้มองเห็นปัญหา แต่ในการขับเคลื่อน ในระดับประเทศชาติ ถ้าเปรียบก็คงเหมือน ขับรถบรรทุกของที่แสนหนัก จะเลี้ยว จะเบรก คงไม่สามารถทำได้ทันทีทันใด การเขียนทางออก ไม่จำเป็นต้องกำหนดเงื่อนไขกว้างเกิน แต่ควรกำหนดในเงื่อนไขพิเศษจริง ๆ หรือเขียนว่าให้เป็น ตามธรรมเนียมปฏิบัติ
"ถ้าโพลออกมาต่างจากนี้คงแปลก" ----------------------------------------------------------------------- คือผมอยากรู้ว่า คนที่ตอบโพลทั้งหมดนั้นรู้หรือปล่าวว่า พรรคการเมืองของไทยเกือบทั้งหมด จริงๆแล้วมันไม่ใช่พรรคการเมือง มันเป็นบริษัทจำกัด มีนายทุนเป็นเจ้าของกิจการ ใว้เวลาเข้าใจประชาธิปไตยดีเมื่อไหร่ ค่อยตอบโพลจะดีกว่ามั๊ง
ไอ้ตรงขมวดท้ายนี่ก็พิกลๆอยู่นะ ---------------------------------------------------------------- ให้รัฐมนตรีที่มาจาก ส.ส.ต้องพ้นจาก ส.ส.อีกต่างหาก ขัดประเพณีระบบรัฐสภาและจะทำให้นักการเมืองถูกลอยแพและไม่มีที่ยืนเมื่อถูกปรับออกจากรัฐมนตรี. ----------------------------------------------------------------------------------------- ตามระบบปชต.ที่แท้จริง รมต.ที่โดนปรับออก หมายถึง ****ทำงานไม่ได้เรื่อง ****มีข้อครหาเช่นโกง ประพฤติตัวไม่ดี ****มีปัญหาสุขภาพ ทำงานไม่ได้ แล้วสส.แบบนี้ ยังควรเอาใว้ให้เปลืองภาษีทำไมอะครับ (ปล.ปชต.แบบไทยๆ อาจจะมีพวกขี้เหนียว พวกขาดคนสนับสนุน โดนปรับออกด้วย เพื่อให้นายทุนมือเติบเข้ามาแทน)
แทรกนิดครับ คนไทยไม่ได้เข้าใจศาสนา เหมือน ที่ไม่ได้เข้าใจการเมืองจริง ขออนุญาต ด่าตัวเองสักหน่อยว่า "คนไทยรู้จักแต่สิทธิ ไม่รู้จักหน้าที่" นั้นไม่จริงทีเดียว ที่จริงน่าจะเป็น "คนไทยรู้จักแต่สิทธิของตัวเอง รู้จักแต่หน้าที่ของคนอื่น"
อย่าไปเถียง โพล เลยครับ เพราะโพลนี้ทำถูกต้องตาม หลักวิทยาศาสตร์ เลยนะครับ เกิดมาผมก็เพิ่งเคยได้ยินนี่แหละ ว่าทำโพลตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่เวลาอ้างรัฐธรรมนูญไม่ดี ดันอ้างว่าผิดประเพณีซะงั้น แต่ก็ยังดีที่ไม่อ้างว่าผิดผี คนเขียนนี่แกคงห่วง สส ห่วง รัฐมนตรี เหลือเกินเลยต้องอ้างทั้ง วิทยาศาสตร์ และ ประเพณี เพราะกลัวคนจะไม่เชื่อ ที่น่าเป็นห่วง น่าจะเป็นเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีมากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าเขียนเปิดทางให้มีการสืบทอดอำนาจ และเพ่งไปที่ลุงตู่ แต่ในทางกลับกันไม่มีคนมองถึงคนที่กำลังดิ้นหนีคุก ซี่งต้องการอำนาจเพื่อให้พ้นคุกเหมือนกัน แล้วพรรคนี้เคยทำวีรกรรมแบบไร้จริยธรรมให้เห็นมาแล้ว ถ้าได้เสียงข้างมากเข้ามาแล้วเลือกเอาคนหนีคุกหรือญาติพี่น้องคนหนีคุกเข้ามามีอำนาจ เขาทำได้นะครับ ไม่ผิดรัฐธรรมนูญด้วย เพราะรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้เขาทำ อยากรู้ว่า กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ จะรับผิดชอบอะไรหรือไม่ ถ้าเขียนให้มันชัดเจนแล้วจะดิ้นตายกันหรือไง
ความหมายของโพลที่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ คือ การทำโพลที่ใช้ระเบียบวิธี ทางสถิติ และสถิติ ก็เป็น แขนงหนึ่ง ของคณิตศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ก็คือเครื่องมือทาง วิทยาศาสตร์ โพลที่เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ จึงมีที่มาตามนี้ ความหมายของ รัฐธรรมนูญ ที่เป็นไปตาม ประเพณี คือ รัฐธรรมนูญเป็น กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ กฎหมาย จะต้องอาศัย จารีต ขนบธรรมเนียม ประเพณี เป็น บรรทัดฐาน รัฐธรรมนูญ เป็นไปตามประเพณี จึงมีที่มาตามนี้ หาก กลัวว่า พรรคเพื่อไทย จะชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ในคราวหน้าก็ เรียกร้องท่านนายก ไม่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งครับ เดี่ยวเจอ ถามกลับ ว่า ใคร ควาย กันแน่ที่แม้แต่ควาย ยังชนะไม่ได้ ผมกลัวว่าจะตอบกันไม่ถูก
ควายนี่คงเป็นผมแหละครับ ที่เกิดมาไม่เคยได้ยินว่าโพลทำตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่แท้มันต้องคิดยอกย้อนให้กลับไปเข้าหลักวิทยาศาสตร์นี่เอง ขอบคุณมากครับที่ช่วยอธิบายให้หายโง่ แต่ผมไม่ได้กลัวพรรคเพื่อไทยชนะหรอกครับ ผมกลัวว่า ถ้าเขาชนะแล้วเขาจะใช้รัฐธรรมนูญที่เขียนไว้มาเลือกคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งครับ อันนี้ผมคงหลุดจากข้อหา ควาย นะครับ
ถ้าเอาแค่ผลโพลมาตัดสินว่าประเทศควรมีนโยบายแบบใหน ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมีนายก ไม่ต้องมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ มีแค่ปลัดไว้สั่งงานตามที่ผลโพลออกมาก็พอ
ก่อนอื่นต้องขอตอบเรื่องการทำโพลที่เป็นวิทยาศาสตร์ก่อนว่า เรื่องนี้ไม่ได้ ใช้เทคนิคยอกย้อน (เพราะ บางคนอาจไม่ได้เรียนมาทางสายวิทย์ ) http://people.howstuffworks.com/political-polling.htm https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=9&cad=rja&uact=8&ved=0CF8QFjAI&url=http://home.dsd.go.th/kamphaengphet/km/information/basic_statistics.pdf&ei=NbEDVaP7PMS_mwXstYD4BA&usg=AFQjCNEg0mz8ojMc6hVFVubd7dvsoM3JgA https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=2&cad=rja&uact=8&ved=0CCQQFjAB&url=http://www.amstat.org/careers/whatisstatistics.cfm&ei=wbQDVZzDGOXwmAXZgYEY&usg=AFQjCNEy0X95H0sKsb7t4b2BjC8jG7bx9A https://www.google.co.th/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=4&cad=rja&uact=8&ved=0CDYQFjAD&url=http://www.scc.ms.unimelb.edu.au/whatisstatistics/&ei=wbQDVZzDGOXwmAXZgYEY&usg=AFQjCNFqEXF213ed5HNP8zvCXM8Mb5REWg ฯ ล ฯ ประเด็นผมในเรื่องนี้คือ หาก ยังไม่พร้อมที่จะลงสนามเลือกตั้ง ก็อย่าเพิ่งลงลงไปทั้งที่ไม่แน่ใจว่า จะแพ้อีกครั้ง ทั้งที่อำนาจรัฐอยู่ในมือ อย่างนี้ก็ต้องทบทวนตัวเองเหมือนกัน ว่า เกิดอะไรขึ้น แม้เราจะเขียน กำหนด อะไร ลงไปในรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะแก้ไข ไม่ได้ หรือเป็นหลักประกันว่า เราจะได้นายก ที่เราต้องการหากเป็นอย่างนั้น แล้วจะมีประโยชน์อะไร เรามี รธน มาแล้ว กี่สิบฉบับ ทุกฉบับก็พยายามนำเอาข้อดีของแต่ละประเทศมารวมไว้ แต่ ในที่สุด ที่ว่า ดีดีกัน ตอนหลังก็บอกว่า ดีไม่พอ ตามจริงแล้ว ปัญหานี้ ไม่ได้อยู่ที่ รธน ปัจจัยชี้ขาดสุดท้าย ในทุกเรือง คือ คน ครับ
ผมเข้าใจที่คุณ chackrapbong พยายามอธิบายครับ ว่ามันเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ที่ผมสื่อไปนั้น ผมพูดเสียดสีคนเขียนครับ ที่อ้างว่าโพลนี้ทำถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยผมบอกว่าเกิดมาไม่เคยได้ยินว่าทำโพลตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะที่เขาอ้างกันเขามักจะอ้างว่า ตามหลักวิชาการ หรือหลักสถิติ แต่เมื่อผู้เขียนอ้างทำตามหลักวิทยาศาสตร์ แสดงว่าต้องการให้คนเชื่อถือโพลนี้มาก เท่านั้นเอง แต่อย่างไรก็ขอบคุณครับที่พยายามอธิบาย เชื่อครับ เชื่อ
โดยผมบอกว่าเกิดมาไม่เคยได้ยินว่าทำโพลตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะที่เขาอ้างกันเขามักจะอ้างว่า ตามหลักวิชาการ หรือหลักสถิติ แต่เมื่อผู้เขียนอ้างทำตามหลักวิทยาศาสตร์ แสดงว่าต้องการให้คนเชื่อถือโพลนี้มาก เท่านั้นเอง เหมือนกับนิ้วที่ชี้ไปที่พระจันทร์ "ภาษาก็เหมือนกับนิ้วที่ชี้ไปที่พระจันทร์ จุดมุ่งเราอยู่ที่พระจันทร์ อย่าเอานิ้วเป็นพระจันทร์ หรืออย่าติดอยู่แค่นิ้ว เอานะ เข้าใจ…” พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)จากธรรมบรรยายเรื่อง “คนไทยใช่กบเฒ่า?”
เอาง่าย ๆ การเลือกกลุ่มสอบถาม ช่วงเวลาในการดำเนินการ ความเห็นของคน ณ ช่วงเวลานั้น มีผลต่อการตอบ ของกลุ่มตัวอย่าง หากมองในแง่ดี โพลลักษณะนี้ต้องทำแบบต่อเนื่อง เพื่อสำรวจความเห็นที่เปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นไหม การเลือกกลุ่มตัวอย่าง การประชาสัมพันธ์ การมีส่วนร่วม ปัจจัยอื่นๆ ที่รัฐต้องใส่ไปเพื่อสร้างฉันทามติ ล้วนมีผลต่อ ความเห็นทั้งสิ้น หากอ่านตามโพลนี้ ตีความได้แค่ ควานเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ณ จุดของเวลานั้น ๆ แค่นั้น หากรัฐไม่ปรับเปลี่ยนอาจเกิดปัญหาได้
... เปรียบ ปชต. กับสันดานไทยๆที่เห็นง่ายๆทุกวันนี้... ... กฎหมายจราจร กำหนดอาณัติสัญญาณไฟเขียว เหลือง แดง ไว้เพื่อให้เข้าใจและปฏิบัติตาม "เหมือนๆกัน" แต่จราจรไทยสมัยนี้ ไฟแดงแต่ทางโล่ง... กรูน่าจะไปได้... สิทธิของกรู... ... สะพานลอยคน สะพานลอยรถ เลนซ้าย เลนขวา กำหนดการใช้ไว้เพื่อความเข้าใจและปฏิบัติตาม "เหมือนๆกัน" แต่จราจรไทยสมัยนี้... กรูมีอิสระเสรี ไปได้ทุกที่ๆ... แล้วแต่สันดาน... กรูก็น่าจะไปได้... สิทธิของกรู... ... เอาแค่สองประเด็นที่เห็นกันอยู่ตำตา ตำตีนทุกวันๆๆๆๆ... แล้วคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่... เข้าใจ ปชต. เหมือนกันหรือยัง???? ... หรือ ปชต. ที่คนส่วนใหญ่กิน, อยู่, ใช้, อ้างอิงคือตามแต่สันดานกรู... แบบ "เดรัจฉาน" หนอ????
ความคิดก็วนอยู่แค่ นายกมาจาก สส เพราะมีประชาชนยึดโยง เป็นรัฐมนตรี แล้วทำไมต้องขาดจากความเป็น สส จะมี สว ต้องมาจากการเลือกตั้ง ห้ามมาจากการแต่งตั้ง ไม่เป็นประชาธิปไตย เราจะแยกฝ่ายนิติบัญญัติกะฝ่ายบริหารออกจากกันอย่างไร เพราะเราไม่เข้าใจกันถึงแก่นแท้ เราเลยแก้ปัญหาไม่ได้ ไม่ถูกจุด และก็จะวนลูปกันไปมาแบบนี้ วนกันไปกันมาสามสี่สิบปี แล้วก็จะวนจะเวียนกันต่อไป เคยคิดว่าให้นักการเมืองยุคเก่าๆตายไปเดี๋ยวคนรุ่นใหม่ๆเข้ามาจะดีขึ้น คิดผิดมากเพราะหนักกว่าเดิม แยบยลกว่าเดิม เคยดูหนังจีนสมัยก่อน ฝรั่งเขาว่าจีนเป็นประเทศขี้โรคแห่งเอเซีย ผมว่าประเทศไทยมากกว่าขี้โรคมาตั้งแต่ 2475
ผมว่าจะเลือกตั้งหรือแต่งตั้ง มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ในการแก้ปัญหาการโกงกิน ซึ่งเป็นตัวปัญหาใหญ่ของประเทศไทย ต้องมีระบบตรวจสอบที่เข้มแข็ง ตงฉิน เป็นอิสระเท่านั้น จึงจะแก้ปัญหาได้
ไม่ได้ครับ ผิดคอนเซ็ป นายกต้องมาจากการเลือกตั้งก่อน เรื่องอื่นไม่สำคัญ ต้องมีประชาชนยึดโยง ไม่เป็นประชาธิปไตย เรื่องอื่นไว้ทีหลัง 5555
เป๊ะ..... ระบบตรวจสอบที่เข้มแข็ง อิสระ เที่ยงธรรมและเด็ดขาด เท่านั้น ที่จะพาชาติพ้นภัย เรื่องอื่น เป็นแค่ กระพี้ ตามที่ คุณ kokkai ตั้งกระทู้ไว้ ปิดกระทู้ ประกาศชัยชนะ แล้ว วน loop กันต่อไป (ฮาจริง)