เรื่องปิดสนามบิน เขายังจะสู้ต่อกันในศาล ว่าปิดเพราะ พันธมิตร หรือทางการท่าอากาศยานสั่งปิดเอง เรื่องเผาบ้าน เผาเมือง เผาศาลากลาง ศาลตัดสินแล้ว ว่าผิด มีโทษติดคุกไปหลายคนแล้ว แต่ถามว่า ใครเลวกว่ากัน ... คนทำจะรู้ตัวเองดีที่สุด ถ้าเผาเพราะมีความเชื่อตามแกนนำว่า เผาแล้วจะทำให้ประเทศดีขึ้น หรือ ปิดสนามบินเพราะอยากให้ประเทศดีขึ้น อย่างนี้ไม่เรียกว่า เลว (เรียกว่า โง่) แต่ถ้าเผาเพราะอยากทำให้ประเทศแย่ลง อยากให้มีคนตาย หรือปิดสนามบินเพราะอยากให้ประเทศเสียหาย อยากให้ต่างชาติหมดความเชื่อถือรัฐบาล อย่างนี้เรียกว่า เลว ครับ (โง่ ด้วย)
อ่วม! "สนธิ-จำลอง-แกนนำพธม."ส่อล้มละลาย ศาลสั่งชดใช้ทอท. ปมปิดสนามบิน600ล้าน วันที่ 23 มิ.ย. นางมาลีรัตน์ แก้วก่า อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.สกลนคร ได้โพสต์ข้อความตั้งค่าสาธารณะผ่านเฟซบุ๊ก "Maleerat Kaewka"ระบุว่า ตนเอง และแกนนำพันธมิตรรวมทั้งสิ้น 13 ราย ได้รับหมายศาลแจ้งว่าต้องชดใช้เงินจำนวน 600 ล้าน แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กรณีชุมนุมที่ชานชาลา ลานจอดรถสนามบินดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางมาลีรัตน์ กล่าวว่า วิกฤติในชีวิตของแต่ละคนจะมีกี่ครั้ง คงไม่มีใครตอบได้ชัดเจน แต่ 2-3 วันที่ผ่านมายอมรับว่า ตนเองแทบช็อกเมื่อทราบว่าศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งให้พลตรีจำลอง ศรีเมือง และคณะ 13 คน รวมดิฉันด้วย ต้องชดใช้เงินจำนวน 600 ล้าน แก่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) กรณีชุมนุมที่ชานชาลา ลานจอดรถสนามบินดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นวิกฤติชีวิตครั้งใหญ่ของดิฉันและอีกหลายคนแน่นอน ขอเท้าความถึง การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในปี2551เป็นที่ทราบทั่วไปว่า เริ่มตั้งแต่เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ2550มาตรา190เรื่องอำนาจอธิปไตย เหนือดินแดนต้องผ่านสภา มาตรา237 เรื่องยุบพรรคที่ทุจริตเลือกตั้ง เป็นหลัก ไปจนถึงประท้วงแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่ทำขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ก่อนย้ายเข้าทำเนียบในเดือนสิงหาคม มีการลอบยิงด้วยกระสุนปืนและระเบิดเอ็ม 79 รอบๆ ที่ชุมนุมเชิงสะพานมัฆวานแทบทุกวัน หลังจากนั้น ตลอดระยะเวลาของการชุมนุม มีการลอบทำร้ายผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ และอาวุธสงครามถูกนำมาทำลายผู้ชุมนุมครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกิดเหตุการณ์ 7 ตุลาคม ที่ผู้ถืออำนาจรัฐ ใช้อาวุธสงครามทำร้ายผู้ชุมนุม จนน้องโบว์ อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ และสารวัตรจ๊าบต้องเสียชีวิต คุณรุ่งทิวา ธาตุนิยม เป็นเจ้าหญิงนิทราจนปัจจุบัน คุณตี๋ชิงชัยแขนขาด เฮียตี๋ คุณเจ็ก ขาขาด อีกจำนวนมากบาดเจ็บ หลังจากนั้นเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ช่วงเดือน พ.ย.2551 ระเบิดลงบ่อยมาก จน คุณเสถียร จากการไฟฟ้า บาดเจ็บสาหัส น้องโบว์ กมลวรรณ หมื่นหนู เสียชีวิต และ 20 พ.ย.คุณเจนกิจ กลัดสาคร เสียชีวิตเป็นรายสุดท้ายที่ทำเนียบ นั่นคือเหตุที่เกิดขึ้นก่อนการชุมนุมที่ดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ผ่านไป 7 ปีเต็ม แต่ความทรงจำที่เกิดขึ้นในหัวใจดิฉันทุกครั้งที่นึกถึงการชุมนุม193 วัน คือ คำขอร้องของน้องคุ้กกี้ ลูกสาวคุณเจนกิจ กลัดสาคร ที่กล่าวบนเวทีปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย.2551 ด้วยน้ำเสียงที่เรียบ แต่แววตามุ่งมั่นว่า"อยากให้คนไทยมากันเยอะๆ ในวันอาทิตย์นี้ ทำเพื่อพ่อหนูด้วย"นั่นคือความทรงจำผุดขึ้นมาทุกครั้ง หลังจากเราเลิกชุมนุมในวันที่ 2 ธันวาคม 2551 คดี ทอท.ฟ้องแพ่งแกนนำและคณะ 13 คน ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง 25 มีนาคม 2554 ศาลชั้นต้น สั่งให้ชดใช้เงิน 522 ล้าน ทนายสุวัตรและทีมสู้อย่างเด็ดเดี่ยว ขออุทธรณ์แบบอนาถา เพราะแต่ละคนไม่มีงานประจำ ศาลอนุญาตเพียง 1 ใน 3 ทนายสุวัตรต้องดิ้นรนหาเงินวางค่าธรรมเนียมศาลเกือบ 3 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษา ให้ชดใช้เงินจำนวน 600 ล้าน จึงทำให้ทั้ง 13 คน เดินเข้าใกล้เส้นทางเป็นบุคคลล้มละลายเข้าไปทุกขณะ ซึ่งถามว่ากลัวไหม ทุกสิ่งเป็นสรณะ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แต่เราได้พยายามต่อสู้ในสิ่งที่เราเห็นว่าเราทำถูกต้องหรือยัง จึงมีเพียง 2 แนวทางเท่านั้นที่ต้องดำเนินการ แนวทางที่ 1 ยื่นฎีกา ซึ่งต้องวางค่าธรรมเนียมศาล รวม 7 ล้านบาท และทนายได้ขอผ่อนผัน 2 รอบแล้ว ทางคณะฯ จึงได้ขอให้ทนายสุวัตรยื่นเรื่องขอยืดเวลาการชำระค่าธรรมเนียมออกไป จากเดิม 26 มิถุนายน นี้ ย้ำอีกครั้งค่ะ เวลานับจากนี้ไป 4 วัน กับเงิน 7 ล้านบาท จะหาอย่างไร หาจากไหน เพราะแต่ละคนเดือดร้อนกันหมดแล้ว แต่ข้อดี คือ เวลาต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาอาจใช้เวลา 3-5 ปี แนวทางที่ 2 ไม่ยื่นฎีกา ให้ศาลว่าไป โดยไม่สู้ในชั้นฎีกา ยอมรับว่าเราทำผิดทางละเมิด ผลก็คือพลตรีจำลองและคณะทั้ง 13 จะถูกฟ้องล้มละลายต่อไป อาจใช้เวลา 1 ปีนับจากนี้ เราปรึกษาหารือเบื้องต้น ได้ข้อสรุปว่า เดินแนวทางที่ 1 คือยื่นฎีกา ต้องหาเงินมาวางค่าธรรมเนียมศาล 7 ล้านบาท หาจากไหน นั่นล่ะคือสิ่งที่ดิฉันช็อก ช่วยแนะนำดิฉันด้วยนะคะ สุดท้าย นางมาลีรัตน์กล่าวต่อว่า จะมีการระดมทุนเข้ากองทุนสู้คดี เพื่อสมทบเงินค่าธรรมเนียมศาล ชื่อบัญชี มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เพื่อพันธมิตรสู้คดี เลขที่ 008-2-26479-7 ธนาคารกสิกรไทย สาขาบางลำพู บัญชีออมทรัพย์ ด้าน นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงคดีข้างต้นว่า ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตร รวม 13 คน ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2551 จนกว่าจะชำระเสร็จ ในคดีที่บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็น โจทก์ ยื่นฟ้อง กรณีระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน -3 ธันวาคม 2551 พวกจำเลย ร่วมกันนำผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน ไปบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลและขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้น ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลง นายสุวัตร ระบุว่า หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในทุกประเด็น ให้แกนนำพันธมิตร ทั้ง 13 คน ต้องชดใช้เงินค่าเสียหายแล้ว คดีจะครบกำหนดยื่นฎีกาในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ ซึ่งตัวเองและทีมทนายความ กำลังพิจารณารายละเอียดเพื่อยื่นฎีกาต่อสู้คดี ซึ่งเป็นไปได้ที่จะยื่นคำฎีกาไม่ทันช่วงกำหนดดังกล่าว จึงเตรียมแนวทางที่จะยื่นคำร้องขอขยายเวลาฎีกาก่อน ขณะที่ตามขั้นตอนการฎีกาคดีนี้ ฝ่ายจำเลยจะต้องหาเงิน 7 ล้านบาท วางเป็นค่าธรรมเนียมศาลในการยื่นฎีกาด้วย ซึ่งเราเตรียมจะยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาเป็นกรณีอนาถาเพื่องดการวางเงินค่าธรรมเนียม 7 ล้านในการฎีกาด้วย ก็จะต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไรและมีคำสั่งอย่างไรต่อไป http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1435051966
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน : ประชาชาติ ... เอาค่าเสียหายมาเทียบกัน จะรู้ใครเลวกว่ากัน
ปิดสนามบิน ของทุกอย่างไม่เสียหาย แต่เผาบ้านเผาเมือง ศาลากลาง ต้องสร้างใหม่ เสียงบประมาณแผ่นดิน ไปถามเด็ก มันยังรู้เลยว่าเผาบ้านเผาเมือง มันก็ต้องชั่วที่สุด
ถ้าไม่เผา ก็ไม่ต้องสร้างใหม่... เล็งชงครม.ของบ1.3พันล้านสร้างศาลากลางถูกเผา http://www.komchadluek.net/detail/20100524/60333/เล็งชงครม.ของบ1.3พันล้านสร้างศาลากลางถูกเผา.html
ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ " ฮาราคีรี " เศรษฐกิจไทยพินาศ [1 ธ.ค. 51 - 14:51] ***** ทีมเศรษฐกิจหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic02&content=113396 สินค้าเกษตรที่ต้องส่งออกไปยังต่างประเทศเสียหายไปแล้วกว่าวันละ 30,000 ล้านบาท หรือไม่ต่ำกว่า 150,000 ล้านบาท ท่องเที่ยว 6 แสนล้านพินาศยับ คาร์โก้ 6 แสนล้านยืนบนชะง่อนผา ศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ปิดสนามบินเสียหายยับ 2 แสนล้าน : ประชาชาติ ... ถ้าพากันฉลาด ไม่ถูกลุงสนธิหลอก ไม่หลงมนต์โกเต๊ก เงินไม่รู้กี่แสนล้าน นำไปใช้อะไรได้ตั้งเยอะ
ตอบยาก ผมว่าผลกระทบแย่พอๆกันเผลอๆปิดสนามบิน จะเสียหนักกว่า เพราะกระทบเรื่องต่างชาติ ถ้าจะเทียบแบบพอๆกันอีก ก็ต้องปิดสนามบินเทียบระดับกะ เผาศาลากลาง ก่อการร้ายยิงผู้ชุมนุม และเทียบกะล้มประชุมผู้นำอาเซี่ยน ถึงจะเทียบความเลวร้ายกันได้ ป.ล. ความเลวเอาเงินมาพูดอย่างเดียวเหรอ ไอวิสามัญ 2 พันกว่าศพ นโยบาย 3 เดือน ตรง 3 จว. ชายแดนใต้ นี่เสียหายเศรษฐกิจนับไปเท่าไรไม่ทราบ รู้แต่ว่า...เลว
ถ้าจะเอามูลค่าความเสียหาย... จำนำข้าวเรื่องเดียวก็เอาอยู่แล้วครับ ขาดทุน-ย่อยยับ! 6.8 แสนล. ปิดบัญชีจำนำข้าว http://www.thairath.co.th/content/463283
เจ้าพระยาหน้าตาดีบอกว่าใครทำเสียหายมากกว่าก็เลวกว่า... ผมก็ยกมาให้ดู ส่วน ปรส. นี่ยังไงความจริงก็คงไม่ทะลุหัวหนาๆของเจ้าพระยาหน้าตาดีได้หรอก
โง่มา อีกแล้ว ปรส. เค้าบอกอะไรมาก็เชืี่อหมด สมองไม่เคยใช้ บทสรุป ผลการสอบสวนก็มีให้อ่านในเน็ตเยอะแยะ เป็ดบินได้ ก็คงเชื่อ เค้าบอกมา เค้าเล่าว่า
อันนี้ผมยอมรับว่ายกตัวอย่างนอกเรื่องมา ไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ครับ แค่เปรียบเทียบความคิดของเจ้าพระยาหน้าตาดีที่บอกว่า "เอาค่าเสียหายมาเทียบกัน จะรู้ใครเลวกว่ากัน"
คดีปรส. : เรื่องมั่วๆที่หาว่า ปชป. ทำรัฐเสียหายถึง 8แสนล้านบาท 29 มกราคม 2014 เวลา 23:16 น. วิธีใช้ : 1. ใช้อ่านเพิ่มความรู้ให้กับตนเองจะเป็นการดีที่สุด 2. ส่งลิ้งให้คนใกล้ชิดเพื่อนำเสนอความรู้ ปรส. หรือชื่อเต็มคือ องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ (ทักษิณเป็นรองนายกรัฐมนตรี) เป็นผู้ออกพระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน 2540 เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2540 ทำให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการ ปรส. ชุดแรกขึ้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2540 โดยให้ความสำคัญกับการแก้ไขฟื้นฟูฐานะของบริษัทที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ เป็นอันดับแรก โดย ปรส. มีฐานะเป็นองค์กรอิสระ มีอำนาจเบ็ดเสร็จในการดูแลบริษัทเงินทุนที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ 1. คดีที่เกี่ยวพันกับปรส.คือกรณีขายสินทรัพย์สถาบันการเงิน 56 แห่ง ที่ อมเรศ ศิลาอ่อนและ วิชรัตน์ วิจิตรวาทการ อดีตเลขาธิการ ปรส. ถูกฟ้องฐานกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงาน ในองค์การ หรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 (เฉพาะในส่วนของ ปรส.) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คือไปเอื้อประโยชน์เอกชนที่ประมูลสินทรัพย์ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยไม่ได้ให้เอกชนรายดังกล่าวคือ บริษัท เลแมน บราเดอร์ส โดยราคาสินทรัพย์ที่เป็นปัญหาอยู่ที่ 11,520 ล้านบาท วางหลักประกัน 10 ล้านบาท แต่บริษัทไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับ ปรส.ภายใน 7 วันนับจากวันที่ 20 ส.ค. 2541 พร้อมทั้งต้องชำระเงินงวดแรกร้อยละ 20 ของราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลเป็นเงิน 2,304 ล้านบาท แต่ไม่ได้มีการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีแต่การวางเงินประกัน 10 ล้านเท่านั้น ศาลจึงเห็นว่า การประมูลดังกล่าวไม่เกิดสัญญาขึ้น อย่างไรก็ตามต่อมามีการชำระเงินเต็มจำนวนจากการประมูลสินทรัพย์ดังกล่าว ความหมายคือ ไม่มีความเสียหายทางการเงินเกิดขึ้น ปรส.ได้เงินตามราคาที่ประมูล เพียงแต่ขั้นตอนทำสัญญาผิดกฎหมาย และผู้บริหาร ปรส. (อมเรศ ศิลาอ่อน และ วิชรัตน์ วิจิตรวาทการ)ไปเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ศาลจึงสั่งจำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา 3 ปี เพราะอายุมากและเคยทำคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ ลิ้งข่าวรายละเอียดคดีอมเรศ ศิลาอ่อน http://goo.gl/SgHv2K 2. คดีล่าสุดเกี่ยวกับ ปรส. ที่ ป.ป.ช.เพิ่งตัดสินไปเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 ว่า มนตรี เจนวิทย์การ เลขา ปรส. เอื้อประโยชน์ให้กับ เกียรตินาคิน ซึ่งเป็นบริษัทของ ภรรยาพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล (ยิ่งลักษณ์1 จากการเลือกตั้งปี2554) ในการประมูลสินทรัพย์ของ ปรส. ลิ้งข่าวรายละเอียดคดีมนตรี เจนวิทย์การ http://goo.gl/ugHKZK อ้าว...แล้วความเสียหาย 8 แสนล้านบาทคืออะไร??ความเสียหายแปดแสนล้านนั้นก็คือ ผลงานของรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ, ดร.วีรพงษ์ รามางกูร, ทักษิณ ชินวัตร และทนง พิทยะ ที่ร่วมกันบริหารประเทศจนล้มละลาย ต้องเอาประเทศเข้า IMF เพื่อขอกู้เงินมาใช้หนี้ระยะสั้น ทำให้ IMF เข้าควบคุมการเงินของประเทศ นำไปสู่การปิดสถาบันการเงินและการตั้ง ปรส. มาเผื่อจัดการหนี้เสียที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นหนี้สินของสถาบันการเงิน 56 แห่งรวมกันแล้วเป็นเท่าไหร่ นั่้นคือผลงานของชวลิตกับพวกโดยตรง การที่ปรส. ไม่สามารถขายหนี้ 8 แสนล้านได้เท่ากับจำนวนหนี้ เหตุผลหลักก็เป็น เพราะชวลิตทำให้หนี้พวกนี้เป็นหนี้เน่า ปล่อยกู้โดยไม่มีหลักประกันใดๆ "คนทำให้หนี้เน่าไม่ต้องรับผิดชอบอะไร คนขายหนี้เน่าไม่ได้ราคากลับกลายเป็นคนผิด" คดี ปรส. นี้เองเป็นสิ่งที่พรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชาชน และปัจจุบันคือ พรรคเพื่อไทยพยายามบิดเบือนมาตลอด ข้อมูลเพิ่มเติม"ข้อเท็จจริงในด้านนโยบาย ปรส." http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2007q1/2007march13p5.htm อยากถกไปตั้งกระทู้ใหม่นะ
อ่ะเข้าเรื่อง... เฉพาะท่องเที่ยวนะครับ เสื้อแดงล้มเวทีอาเซียนท่องเที่ยวสูญ2แสนล้าน http://www.komchadluek.net/detail/20090412/9249/เสื้อแดงล้มเวทีอาเซียนท่องเที่ยวสูญ2แสนล้าน.html อีกปีที่เผาเมือง คลังประเมินม็อบเสื้อแดงทำเศรษฐกิจไทยพังกว่า 1.45 แสนลบ.กระทบ GDP 1.5% http://www.ryt9.com/s/iq03/915493
ไม่ต้องเบนไปเรื่องมูลค่าหรอกครับ เพราะเหตุการณ์นี้ หน้าตาของประเทศชาติเสียหายจนประเมินมูลค่าไม่ได้ http://www.thairath.co.th/content/415896 หากจะกล่าวว่า วันที่ 11 เมษายน 2552 เป็นวันที่ยากจะลืมเลือนของคนไทย คงไม่ผิดอะไรนัก เพราะวันนั้นเกิดการชุมนุมประท้วง นำมาซึ่งความล้มเหลวของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับนานาชาติ ทำลายภาพลักษณ์ของชาติอย่างย่อยยับ ทุกฝ่ายต่างตราหน้าความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในชุดนายกอภิสิทธิ์ และกล่าวหาความไร้ซึ่งอารยธรรมของกลุ่มคนเสื้อแดง ผู้สร้างความปั่นป่วนให้การประชุมครั้งสำคัญ เป็นที่มาของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่เมืองพัทยาและจังหวัดชลบุรี ทำให้ทั่วโลกจับตามองความล้มเหลวนี้อย่างใกล้ชิด '10 เมษายน' ปฐมบทของเหตุการณ์ ความตึงเครียดของสถานการณ์ เริ่มต้นขึ้น เมื่อฝูงชนที่ใช้เสื้อสีแดงเป็นสัญลักษณ์ หรือกล่าวง่ายๆ ว่าเป็น "ผู้สนับสนุน" ของ "อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร" นับพันคน รวมตัวกันในวันที่ 10 เม.ย. แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปยังโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งใช้เป็นสถานที่การประชุมสุดยอดอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของกองกำลังหลายฝ่าย หลังทราบข่าวความเคลื่อนไหวครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ความพยายามสกัดกั้นขบวนชุมนุมของเจ้าหน้าที่ดูเหมือนจะสูญเปล่า เพราะ สุดท้ายกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ก็มาถึงหน้าโรงแรม รอยัล คลิฟฯ ปักหลักสกัดกั้นรถที่สัญจรผ่านไปมาไม่ให้เข้าในโรงแรม เว้นเพียงรถของเจ้าหน้าที่ทูตที่เข้าร่วมประชุมและเจ้าหน้าที่บางส่วนเท่านั้น พร้อมทั้งยื่นเงื่อนไขขอมีส่วนร่วมกับประชุมอาเซียนครั้งนี้ด้วย ฝ่ายต่อต้านเริ่มลุกฮือขึ้น!! หลังเกิดการพยายามยับยั้งการประชุม ชาวพัทยาจำนวนหนึ่งไม่พอใจที่กลุ่มเสื้อแดงทำให้เสียหายต่อบรรยากาศทางสังคมและธุรกิจของเมืองพัทยา จึงมีการรวมตัวโดยใส่เสื้อสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ ชูป้ายเรียกร้องความสงบ ประกาศให้ชาวชลบุรีทุกคนออกมาปกป้องแผ่นดินเกิด และร่วมกันเป็นเจ้าภาพการประชุม จนเกิดการกระทบกระทั่งกับฝ่ายคู่กรณี มีการตะโกนด่าทอและขว้างปาข้าวของใส่กัน สุดท้ายทั้งสองฝ่ายยอมถอย และนายอริสมันต์ยื่นข้อเสนอให้ตัวแทนแต่ละประเทศที่มาประชุมออกมารับหนังสือประท้วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ หลังการยื่นหนังสือประณามรัฐบาลไทยแล้ว มวลชนเสื้อแดงก็ถอยกลับไปอย่างเป็นระเบียบ เหตุการณ์จึงจบลงอย่างสงบเกินคาด แต่ทว่าการกระทำนี้ไม่ถูกใจ 'ทักษิณ' "ผมแพ้ไม่ได้ ประท้วงแล้ว ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมา" คำพูดจากปากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่พอใจนายอริสมันต์ หลังนำม็อบบุกถึงโรงแรมแต่กลับใช้วิธีเจรจาจบลงอย่างง่ายดาย เสมือนดังคำสั่งประกาศเปิดศึก ปลุกความฮึกเหิมของมวลชนเสื้อแดง แม้จะเป็นเพียงคำพูดผ่านจอภาพวิดีโอที่เจ้าของเสียงอยู่นอกเขตแผ่นดินไทย แต่สิ่งใดที่ออกจากปากคนผู้นี้ ย่อมศักดิ์สิทธิ์ต่อชาว นปช.เสมอ เค้าลางของความรุนแรงเริ่มต้นขึ้นแล้ว... '11 เมษายน' นปช.เผด็จศึก เฮลั่นประกาศชัย การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันที่ 11 เมษายน ยังคงดำเนินไปตามกำหนดการที่วางไว้ แม้กลุ่มคนเสื้อแดงขู่ว่าจะเคลื่อนผู้ชุมนุมไปยังโรงแรม รอยัล คลิฟฯ สถานที่ประชุมอีกครั้ง หลังสามารถทำได้สำเร็จเมื่อวันก่อนหน้า โดยกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกฯ ทักษิณที่เดินทางมาจาก กทม. เริ่มทยอยมารวมตัวกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่เดินทางมาก่อนหน้านี้ รอคอยเวลาเผด็จศึก กระทั่งเสียงสั่งการเริ่มต้นขึ้น ปฏิบัติการล้มประชุมอาเซียน 08.00 น. กลุ่มรถแท็กซี่หลายสิบคัน ใช้รถปิดถนนบริเวณแยกเขาพระตำหนัก ทางขึ้นโรงแรม รอยัล คลิฟฯ สถานที่จัดการประชุมอาเซียน ก่อนเคลื่อนตัวไปชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรี ทว่าห่างออกไปไม่ไกล มีกลุ่มเสื้อสีน้ำเงิน จำนวนหลายร้อยคนปิดทางขึ้นโรงแรมเช่นกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร หลายกองร้อยตรึงกำลังเข้ม 09.00 น. กลุ่มเสื้อแดงประจันหน้ากับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน บริเวณทางเข้าโรงแรม รอยัล คลิฟฯ ต่อมา เกิดการปะทะกลางแยกพระตำหนัก เมืองพัทยา เสียงปืน ระเบิดปิงปองดังลั่นขึ้น หลังเสียงสงบพบผู้บาดเจ็บหลายราย 10.15 น. นายกรัฐมนตรีที่อยู่ในโรงแรม รอยัล คลิฟฯ ฯ เรียกประชุมด่วนฝ่ายความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง จากนั้นโฆษกรัฐบาล แถลงเลื่อนประชุมสุดยอดอาเซียนกับผู้นำจีน หลังม็อบเสื้อแดงป่วนหนักขัดขวางการเดินทาง 11.50 น. แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวหาว่า รัฐบาลอยู่เบื้องหลังการปะทะกันของฝ่ายตนกับกลุ่มเสื้อน้ำเงิน จึงแถลงเรียกร้องให้ยุติการประชุมอาเซียน และให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อรับผิดชอบ กรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้น 12:30 น. กลุ่มเสื้อแดงระดมพลอีกครั้ง บริเวณทางขึ้นโรงแรม รอยัล คลิฟฯ พร้อมกระจายกำลังล้อมปิดเส้นทางขึ้นโรงแรมทุกเส้นทาง และแบ่งกำลังบางส่วนไปต้านกลุ่มเสื้อน้ำเงินในที่ปักหลัก ต่อมาได้ยกพลปีนกำแพงเข้าสู่สถานที่ประชุมอาเซียน โดยเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ไม่สามารถสกัดกั้นได้ 13.15 น. กลุ่มเสื้อแดงคลั่งทุบกระจกโรงแรมเสียหาย ก่อนบุกเข้ายึดและจัดโต๊ะแถลงข่าวเบ็ดเสร็จ โดย นายอริสมันต์ แถลงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี จับผู้ที่ทำร้ายกลุ่มคนเสื้อแดงเมื่อช่วงเช้าให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้น เสื้อแดงจะตอบโต้อย่างรุนแรงทันที และไม่รับผิดชอบความปลอดภัยผู้ที่อยู่ในอาคารศูนย์ประชุม ฝ่ายผู้นำประเทศต่างๆ เร่งเดินทางออกจากโรงแรมหลังผู้ชุมนุมบุกรุกเข้ามา 13.26 น. รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดร.ปณิธาน วัฒนายากร แถลงเลื่อนการประชุมอาเซียน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงมาตรการจัดการกลุ่มเสื้อแดง 13.47 น. นายกรัฐมนตรีประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่เมืองพัทยา และ จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่อันตรายขั้นร้ายแรง โดยมอบหมายให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคงเป็นผู้กำกับดูแลสถานการณ์ สุดท้ายการประชุมระดับโลกก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า !? การที่รัฐบาลประกาศยกเลิกการประชุมอาเซียน ย่อมหมายความถึงเป้าหมายของกลุ่ม นปช.บรรลุแล้ว ดังนั้นจึงมีการฉลองประกาศชัยชนะไปตามถนนสายต่างๆ ทั่วเมือง แต่ความล้มเหลวครั้งนี้จะเรียกว่าชัยชนะได้อย่างไร เมื่อต้องแลกมากับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ซึ่งต่างชาติเรียกว่าเป็น “โศกนาฏกรรมของไทยและอาเซียน” เพราะการประชุมครั้งนี้มีความสำคัญมากกับวิกฤติเศรษฐกิจโลก ความหวังว่าข้อตกลงของผู้นำชาติต่างๆ จะช่วยแก้ปัญหา ค่อยๆ ปลิวหายไปกับเสียงการบุกรุกเข้ามาในโรงแรมของผู้ชุมนุม ทุกอย่างต้องชะงักงัน อาเซียนต้องหยุดกระบวนการทำงานที่สำคัญที่สุดในรอบ 42 ปี รัฐบาลในชุดนายกฯ อภิสิทธิ์คงต้องหันมองตัวเองว่าทำไมถึงปล่อยให้มีเหตุการณ์น่าอับอายเช่นนี้ และกลุ่มคนเสื้อแดงก็ต้องฉุกคิดว่าชัยชนะบนซากปรักหักพังของประเทศ สมควรแล้วหรือที่จะแห่ฉลองอย่างเริงร่า เพราะสุดท้ายแล้วผู้ที่ต้องรับกรรมกับความอัปยศนี้ คือคนไทยทุกคนที่อาจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้เลยก็เป็นได้ การกู้ภาพลักษณ์กลับคืนคงไม่ง่ายเหมือนตอนก่อขึ้นเสียแล้ว...
อู้ยๆๆๆๆ เจ็บจังๆๆๆๆก็บอกแล้วว่า ผิดเป็นผิด ไม่ต้องตั้งโต๊ะไม่รับอำนาจศาล อู้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่จัญไร ชาติชั่ว นรกถีบส่ง ทำไม่ได้หรอก เจ็บจนเข่าอ่อนเลยเนี่ยเห็นมั้ย ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ห่วงชุมนุมนองเลือด กระทบ ศก.เสียหาย 5 แสนล้าน! นักวิชาการห่วง "ชัตดาวน์กรุงเทพฯ" 13 ม.ค. ชนวนเหตุเกิดสงครามกลางเมือง หวั่นเกิดเหตุนองเลือด กระทบเศรษฐกิจ เสียหาย 5 แสนล้านบาท... http://www.thairath.co.th/content/393417
ขอเปรียบเทียบเหตุการณ์ระหว่างพันธมิตรปิดสนามบินกับควายแดงล้มประชุม เผาเมืองนี่ ใครเลวกว่ากันครับ ขอเปรียบเทียบเหตุการณ์ระหว่างพันธมิตรปิดสนามบินกับควายแดงล้มประชุม เผาเมืองนี่ ใครเลวกว่ากันครับ ขอเปรียบเทียบเหตุการณ์ระหว่างพันธมิตรปิดสนามบินกับควายแดงล้มประชุม เผาเมืองนี่ ใครเลวกว่ากันครับ สามบรรทัดพอดีแต่ข้อความซ้ำๆก็ช่วยอ่านหน่อยนะ