ในเรื่องนี้ดิชั้นเชื่อว่าสหรัฐอมเริกาจะไม่ทำให้ส่งผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยอย่างแน่นอน โดยไม่เอาเยี่ยงอย่างสารขันประเทศเผด็จการ เพื่อเสรีภาพ อุ้ยต้ายย ดูสิคะ ควายชุดดำทะมึนที่แท้มีนเป็นเจ้าหน้าของรัฐค่ะ!! ฮิวแมนไร้วอทประณามมันให้เต็มที่เลยค่ะ
เมกา ป่าเถื่อนใช้ความรุนแรงต่อ ปชช ได้ไง อย่างนี้มันไม่ประชาธิปไตยนี่หว่า เอ้าควายแดงออกมาด่าไอ้กันเร้ว
แต่อเมริกา ไม่เคยกล่าวหา ผู้ชุมนุมเผารถ เผาสถานที่ ว่าเป็นพวกก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง ทหาร อเมริกา ก็มีความเป็นมืออาชีพสูง ไม่เข้ามาแทรกแซง การทำงานของภาครัฐ เหมือนบางประเทศ ที่มีลักษณะเหมือนพม่า และเกาหลีเหนือ
กำลังรอฮิวแมนไร้วอทออกมาชี้นำค่ะ ดิชั้นเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีคำอธิบายอย่างแน่นอน วันที่ 27 เม.ย.58 แฉ..อเมริกาประกาศภาวะฉุกเฉิน และเคอร์ฟิวแล้ว เผด็จการเต็มพิกัด ขณะที่ชาวโลก กำลังสาละวนอยู่กับการช่วยเหลือชาวเนปาล ที่เกิดวิปโยคแผ่นดินไหวตายกว่า 5,000 รายแล้ว แต่กองกำลังทหารอเมริกา ไม่เคยสนใจ ยังคงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเข่นฆ่าชาวซีเรียและอิรัก อย่างต่อเนื่อง โดยเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศในซีเรีย 11 ครั้ง และอิรัก 27 ครั้ง ในเวลาเดียวกันนั้น ชาวอเมริกัน เมืองมัลติบอร์ ( มีประชากรราว 600,000 คน) รัฐแมรี่แลนด์ อเมริกา ตั้งอยู่ห่างจากกรุงวอชิงตัน 64 ก.ม. ก็ถูกปกครองแบบกดขี่แบบเผด็จการ ละเมิดเสรีภาพ และสิทธิมนุษยชน อุ้มฆ่าคนผิวสีจากทางการ หลังจากญาติจัดพิธีศพ นายเฟรดดี้ เกรย์ วัย 25 ปี ที่ถูกตำรวจอุ้มฆ่าแล้ว พลเมืองชาวอเมริกันทนไม่ไหว ได้ลุกฮือกันหลายพันคนออกมาสู่ท้องถนน จัดทัพพลเรือน ดาหน้าเข้าปะทะกับตำรวจ ทุบรถราชการ ด้วยความอัดอั้นตันใจ ตำรวจได้เรียกกำลังเสริมทันที มาไล่ทุบด้วยกระบอง เตะ ต่อย ผู้ประท้วงผู้หญิง วัยรุ่น จนล้มลุกคลุกคลาน และจับตัวไปราว 35 คน อ้างว่าผิดกฎหมาย และห้ามคิดต่าง ต่อต้านรัฐบาลเลือกตั้ง กลุ่มผู้ประท้วงที่ขาดเสรีภาพ โดนความรุนแรงเข้าไปก็แตกพ่าย ได้รวมตัวกันอีกครั้งที่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งของเมือง โดยมีหน่วย S.W.A.T. ติดอาวุธสไนเปอร์ จัดกำลังพร้อมยิงจากอาคารสูง และมีการเรียกระดมกำลังทหาร ที่มีอาวุธครบมือ ไว้ปราบปรามประชาชนอเมริกัน ด้วยความรุนแรง กลุ่มผู้ประท้วงทั้งคนผิวสี และผิวขาว ได้รวมตัวกันเดินไปศาลากลางราชการเมืองบัลติมอร์ แต่ก็ถูกตำรวจปราบจราจล และทหารขัดขวางสกัดกั้นเสรีภาพอย่างหนักปิดกั้นถนนสายต่างๆ อ้างว่าม็อบนี้ตาขวาง ก้าวร้าว ไม่เคารพตำรวจ จึงทำการระดมยิงแก็สน้ำตาใส่ แบบไม่ลืมหูลืมตา จนประชาชนต้องหลบเข้าไปในอาคารร้านค้าริมถนน และหยิบฉวยสิ่งของเท่าที่จะหาได้ มาต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จ มีมือที่ 3 สวมรอยทำการเผาอาคาร ปล้นร้านขายยา จนควันดำโขมงขึ้นเหนือท้องฟ้าของเมือง พนักงานดับเพลิงต้องฉีดน้ำใส่กองเพลิงหลายๆ จุดที่ขยายลุกลามไปทั่วเมือง ต่อมาทางการได้มีคำสั่งปิดมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ บัลติมอร์ เพื่อป้องกันนักศึกษา เข้าไปรวมพลกับประชาชน และจะทำให้กองทัพประชาชนมีจำนวนมากขึ้น ในอเมริกามี 3 แก็งค์อันธพาลใหญ่ และนักโทษพ้นคุก ที่ป่วนเมือง 3 แก็งค์ใหญ่ ที่มีสำนักงานใหญ่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย มีกองกำลังชายชุดดำติดอาวุธรวมกันราว 55,000 คน และแนวร่วมอีกราว 50,000 คน ในทั่วทุกรัฐ ของอเมริกา และยังมีสาขาแก็งค์ที่เมืองบัลติมอร์ด้วย โดยในฤดูเลือกตั้งแก็งค์พวกนี้ จะรับจ้างนักการเมืองอเมริกา เป็น "หัวคะแนน" คอยคุมคะแนนเสียงจัดตั้งให้กับบรรดานักการเมืองทั้ง ส.ว. และ ส.ส. ข่มขู่ประชาชนผู้เลือกตั้ง และคุมคะแนนเสียงไม่ให้แตก พอพ้นฤดูเลือกตั้ง ก็ประกอบอาชญากรรมสารพัด เช่น ค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ คุมบ่อน ซ่อง อาวุธเถื่อน ปล้นสดมภ์ เรียกค่าคุ้มครอง ฯลฯ มีการยิงกันตายต่อวัน มากกว่าการตายในสงครามอิรัก และซีเรียรายวันเสียอีก แก็งค์พวกนี้ก็ทำหน้าที่ให้นักการเมืองอเมริกา คล้ายกลุ่มก่อการร้าย IS ในตะวันออกกลางของ CIA และอิสราเอล นั่นแหละ ทางการอเมริกา และตำรวจสบช่อง จึงใช้ข้ออ้างหน้าเฉยว่า...แฮะแฮ่ม มีแก็งค์นักเลงอันธพาลหัวไม้ ชายชุดดำติดอาวุธทำร้ายตำรวจ " จึงขอประกาศสถานฉุกเฉิน และเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านช่วงเวลา 22.00 - 05.00 น. ใครฝ่าฝืนจะจัดการอย่างเฉียบขาด "...น้าน !! นี่แหละวิธีการใส่ร้าย เพื่อควบคุมประชาชนของรัฐบาลอเมริกา จากนั้นทางการสั่งระดมกองกำลังกว่า 10,000 นาย ทั้งในเขต และระดมมาจากนอกเขตในภาคกลาง มาร่วมปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรงด้วย โดยโอบามา ที่เพิ่งฟื้นจากพี้กัญชาหนัก ได้ออกมาประกาศว่า " รัฐบาลอเมริกา จะให้ความช่วยเหลือ และกำลังสนับสนุนการปราบปรามประชาชนอย่างเต็มที่ " เออ..เอากะเขาซิ นี่เองจึงเป็นที่มาของหลักฐานวิจัยที่ชวนตกตะลึงของมหาวิทยาลัยพริ้นตัน ที่มหาวิทยาลัยระดับชั้นนำ ของชนชั้นเศรษฐี ประเทศอเมริกา ว่า "อเมริกา ไม่ใช่ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป" งานวิจัยสรุปว่า การตัดสินใจของรัฐบาลอเมริกา ไม่ได้ยึดโยงประโยชน์ประชาชนรากหญ้าเป็นหลัก เพียงแต่ตอบสนองกลุ่มอิลลูมินาติ ที่เป็นชนชั้นสูงที่ร่ำรวยไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจาก อิลลูมินาติ มีอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกาอย่างมาก ในขณะที่ตัวแทน และประชาชนเอง ไม่มีหรือแทบจะไม่มีสิทธิทางการเมือง การปกครองเลย รัฐจะถูกควบคุมโดยอิลลูมินาติร่ำรวย และเป็นผู้กำหนดนโยบาย มาใช้กับประชาชน โดยประชาชนไม่มีส่วนร่วมใดๆ เลยทั้งสิ้น ดังนั้นหากความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่ตรงกับกลุ่มอิลลูมินาติ ประชาชนก็จะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากรัฐเลยอีกด้วย ในด้านต่างประเทศนั้น รัฐบาลอเมริกา และกองทัพ ไม่ได้เป็นตัวแทนในการแสดงออกถึงผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเลย แต่กลับทำเพื่อปกป้องผลประโยชน์คนร่ำร่วยจากกลุ่มอิลลูมินาติ ที่เป็นผู้มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญ เป็นมือที่มองไม่เห็น ควบคุมรัฐบาลอเมริกาอยู่เท่านั้น ชาวอเมริกัน มีแค่ความพึงพอใจติดกับดักในคำว่า "ประชาธิปไตย" เท่านั้น ซึ่งหมายถึง แค่การเลือกตั้ง การเข้าสมาคม และแฟชั่น ซึ่งสิ่งพวกนี้ประเทศไหนๆ ก็มี แต่มัน "ไม่ใช่แก่นแท้" ประโยชน์ของประชาชน งานวิจัย มหาวิทยาลัยพริ้นตัน จึงฟันธงว่า "ประเทศอเมริกา ยังห่างไกลจากสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงอีกมาก" โอ้โห..นี่มันจับประเทศอเมริกา แก้ผ้าประจานระบอบประชาธิปไตย กันกลางถนนให้อายกันดื้อๆ แบบนี้เลย ตบหน้านักวิชากำกวม และนักศึกษาผลไม้พิษ และนักสิทธิเพ้อฝัน ทั้งหลายฉาดใหญ่ เพราะประชาธิปไตย แนวชาติตะวันตก มันก็คือเสื้อนอกที่คลุมร่างเผด็จการคนร่ำรวยไว้เท่านั้น ต่างจากระบอบอนุรักษ์นิยม ประชาธิปไตย ของไทยตอนนี้แบบฟ้า กับ เหวลึก เพราะของไทยไม่ได้ยึดติด และไม่สนใจนักการเมือง หรือ กลุ่มทุนที่ควบคุมนักการเมืองอยู่ แต่ยึดประโยชน์ และตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ พิสูจน์ได้จากผลของสารพัดโพล ที่สำรวจความคิด้ห็นผู้นำชุมชน และประชาชนทั่วประเทศ ตลอดกว่า 10 เดือนมานี้ เกินกว่า 20 โพล ผลการสำรวจทุกครั้ง ออกมาสอดคล้องกัน ว่าประชาชนส่วนใหญ่เกิน 90% เบื่อหน่ายการเลือกตั้งแบบเดิมๆ เพราะก็ได้แต่คนหน้าเดิมๆ ที่ซื้อเสียงเข้ามา แต่ประชาชนส่วนใหญ่พึงพอใจ ในความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ที่ไร้อั้งยี่เผาไทย สั่งกลุ่มก่อการร้ายแดง นปช. ยิง M79 ใส่เด็ก ผู้หญิง และคนชรา , พึงพอใจ การปราบปรามทุจริตคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง พึงพอใจการจัดระเบียบของสังคม การบังคับใช้กฎหมายเพื่อพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , พึงพอใจในตัวผู้นำประเทศ ที่ยืนผงาดในเวทีประชาคมโลกอย่างองอาจภาคภูมิ ต่อรองผลประโยชน์ของชาติ ในนามตัวแทนของประชาชนไทย พึงพอใจการมีเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศและชนชาติ โดยไม่ต้องง้อและก้มหัวให้ชาติอื่นเหมือนสมัยนักการเมืองเลือกตั้ง , พึงพอใจการเทิดทูนจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง , พึงพอใจการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางดำเนินนโยบายรัฐ พึงพอใจในการส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติ ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและศิลปวัฒธรรม , พึงพอใจในการเพิ่มการช่วยเหลือสวัสดิการจากรัฐด้านสาธารณสุข ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ผู้มีรายได้น้อย คนชรา ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนไทยกำลังได้รับการคืนความสุขไปเต็มๆ จากระบอบอนุรักษ์นิยม ประชาธิปไตย จนล่าสุดเป็นที่มาของการเผยแพร่ผลสำรวจประเทศทั่วโลกว่า "คนไทยเป็นชาติที่มีความทุกข์ น้อยที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก" @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/topsecretthai
เมื่อไม่นานก็มีประท้วงเริ่มที่เฟอร์กูสัน มิสซูรีจนการชุมนุมปะทุขึ้นกว่า 170 แห่งใน 30 รัฐทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่มหานิวยอร์คทางฝั่งนิวอิงแลนด์ไปจนถึง นครลอสแองเจลลิส ทางฝั่งตะวันตกของประเทศ วันนี้เอาอีกแล้ว
ในเรื่องนี้ถ้ารัฐบาลไม่โกหก ก็แสดงว่าประชาชนนั้นรับฟังสื่อล้างสมองที่บิดเบือนให้ร้ายรัฐบาลจนออกมาชุมนุมโดยก่อความรุนแรงไม่ว่าจะทุบรถ เผาห่าไรก็ตาม ไม่อหิงสา อย่างแน่นอน ซึ่งหากกรณีนี้รัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง แสดงว่าประชาชนสวะพวกนี้มันต้องผิดแน่นอนค่ะ
กล้าหรือครับคดีเกิดจากข้อพิพาทเรื่องสีผิวที่เขาคิดว่าตัวเองถูกเหยียดหยาม ถ้าบอกตามขั้นต้นรับรองอเมริกาได้กลายเป็นทะเลเพลิงแน่ แล้วรู้ไหมครับว่าอัลกออิดะเนี้ย เด็กปั้นสหรัฐนะครับ
ป๊าดดโถ่ .... มาถามว่า สี่เรื้อนรู้หรือไม่ ถามแบบนี้ดูถูกสติปัญญากันชัด ๆ ลำพังแค่ เกาขี้เรื้อนกับเห่าหอน นี่ก็ใช้ปัญญาสุดชีวิตของสี่เรื้อนแล้วนะครับ
ไม่เคยกล่าวหา แล้วภาพที่ออกสื่อนั่นคือรูปคนกำลังปล้น เผา ใช่หรือไม่ ประเทศไทยเท่านั้นแหละครับที่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ถามไอ้ริดสีดวงสิ แถมบางแก็งสีแดงๆชี้นำเหลือเกิน เนอะ เห็นด้วยกับไอ้เรื้อนพาเพลินก็คราวนี้จริงๆ
โอมาม่าออกมาพูดแล้วนะครับ “ไม่มีข้อแก้ตัวให้พวกก่อจราจลทั้งหลาย” NY Times ระหว่างการเยือนของท่านนายกอาเบะ คงจะเสียหน้าไม่ใช่น้อย
ฟังจากทั่นประธานาธิบดีตรง ๆ เลยครับ “that is not a protest, that is not a statement. that’s people, a handful of people who have taken advantage of the situation for their own purposes and...”
เรื่องภายในของประเทศไทยชอบแส่กันจัง ไฟไหม้บ้านตัวเองแล้ว Human Rights Watch กับบรรดาองค์กรสิทธิมนุษยชนทำสากกะเบืออะไรอยู่เหรอครับ
ถูกต้องแล้วครับ พึ่งมี ความคิดนี้ของคุณ ที่เยี่ยมหน่อย ทำไมหละครับ พวกที่กำลังเผารถ เผาสถานที่ ต่างๆ เขาจะบอกให้มอบตัว ถ้าไม่ และอยู่ในที่เกิดเหตุ และมีอุปกรณ์ ก่อเหตุร้ายด้วย กระทำท่าทางต่อต้าน และพยายามก่อเหตุอีก ยิงทิ้งครับ อย่างเดียวเท่านั้น ก่อการร้าย เหรอครับ แบบนี้ไม่มีหรอก เข้าเรียกว่า อาชญากร ครับ รู้จักมั้ย