ไปเจอเอาบทความที่พาดหัวไว้แบบเนี๊ยะ... ******************************************************************************************** ******************************************************************************************** เห็นหน้าเธอ พนมมือ ยิ้มร่าแบบนี้ เลยทำให้สนใจว่า ในบทความจะว่าอย่างไรในเรื่องที่ต้องรับผิดชอบบ้าง... เลยลองอ่านดู เขาว่าไว้ว่าอย่างนี้ … ******************************************************************************************** เชื่อว่าวันนี้หลายคนเริ่มรู้สึกแล้วว่า "ความรับผิดชอบทางการเมือง" เป็นเรื่องสำคัญของ "นักการเมือง" เป็นเสมือน"ความดีงาม" เป็นเสมือน "จริยธรรม" ที่พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้หลักผู้ใหญ่ สั่งสอนลูกหลาน ลูกศิษย์ลูกหา คนรุ่นหลัง ให้อยู่ในกรอบอันดีของประเพณีวัฒนธรรม แน่นอน, ถ้ามองในมุมของกระบวนการควบคุมทางสังคม เรื่องนี้ถือเป็น "เรื่องใหญ่" เป็นเรื่องที่สังคมยอมไม่ได้และต้อง "ประณาม" ให้เกรงกลัวไม่กล้าทำอีกหรือให้เป็น "บทเรียน" ของคนที่จะทำต่อไป ถ้าร้ายแรงอาจถึงขั้นอยู่ในสังคมไม่ได้ด้วยซ้ำ นี่ยังไม่พูดถึงความผิดต่อกฎหมาย! แต่ปัญหาของการเมืองไทย ไม่ว่า จะเป็นความรับผิดชอบในทางสังคม ความรู้สึกผิด รู้สึกอาย รู้สึกตัวว่าทำในสิ่งไม่ดีและไม่กล้าสู้หน้าทางสังคม ไม่เคยเกิดขึ้น จึงไม่เคยเห็นรัฐมนตรี ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ทำผิดคดีฉ้อโกง หรือทุจริตคอร์รัปชั่น "ฆ่าตัวตาย" เหมือนในต่างประเทศ โดยมีใครก็ไม่รู้กล่าวให้ท้ายเอาไว้ด้วย ว่า "คนไทยลืมง่าย" ความจริงในทางสังคม"ความรับผิดชอบ" ของ "นักการเมือง" น่าจะใหญ่กว่าทางกฎหมายด้วยซ้ำ แน่นอน, ด้านหนึ่งเป็นการส่งสัญญาณไปถึงการปฏิรูปการเมือง และการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ท่ามกลางในทางกฎหมาย กำลังรอการพิสูจน์อีกครั้งหลังจากที่ผ่านมา น้อยนักที่จะเอาผิด หรือ สาวถึงนักการเมืองใหญ่ ผู้กุมบังเหียนนโยบายที่เอื้อให้เกิดการคอร์รัปชั่น และต้องรับผิดชอบต่อนโยบายที่ผิดพลาด ส่วนใหญ่ที่ถูกจับและต้องรับโทษแทนก็คือ เหล่าประดาข้าราชการ ปลาซิวปลาสร้อย "ตัดตอน" อยู่แค่นั้น โดยในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ที่ประชุม สนช. (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ) จะมีการพิจารณาเรื่องถอดถอน สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ที่ถูก ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ไต่สวน และชี้มูลความผิด ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว.โดยมิชอบ และขัดรัฐธรรมนูญ อย่าลืมว่า ผลพวงจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มา ส.ว.มิชอบ ยังเป็นเหตุผลหนึ่งของความขัดแย้งบานปลายก่อนที่จะมีการรัฐประหารด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ก็ยังจะมีการพิจารณา "ถอดถอน" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดในการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และสร้างความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดินอย่างมาก นัดแรก เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดคดี โดยเฉพาะ "ยิ่งลักษณ์" ไม่เพียง ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 7 เสียง ในความผิดที่ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายที่ผิดพลาดตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ ในความผิดเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินตาม พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11 ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช.ต้องถูกส่งเรื่องให้วุฒิสภา (สนช.ทำหน้าที่แทนวุฒิสภา, สภาผู้แทนฯ และรัฐสภา) ถอดถอนออกจากตำแหน่ง ส่วนจะถอดถอนได้หรือไม่ อยู่ที่ สนช. เพราะต้องใช้เสียงถึง 3 ใน 5 หรือ 132 เสียง และเวลานี้ ความเสียหาย ที่ไม่รวมถึงการทุจริตหรือไม่อย่างไร ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของ ป.ป.ช. รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ก็แถลงปิดบัญชี (13 พ.ย.) ออกมาแล้วว่า โครงการรับจำนำข้าว ในรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ขาดทุนถึง 5.18 แสนล้านบาท แต่ยังไม่เคยเห็นความรับผิดชอบ ไม่เคยเห็นความรู้สึกผิด นอกจากการต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด และป้ายความผิดว่า ถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะที่ร่วมอยู่ในอำนาจ "คสช." และไม่ว่า ผลจากการดำเนินการถอดถอนจะออกมาอย่างไร "บทเรียน" ที่นักการเมือง "ไม่มีความรับผิดชอบ" น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ของการปฏิรูปประเทศ เพราะนี่คือต้นเหตุของการทุจริตคอร์รัปชั่น อย่างไม่ต้องสงสัย หรือว่าไม่จริง http://www.komchadluek.net/detail/20141121/196352.html ******************************************************************************************** ม่ายรู้ว่า ถ้าเปลี่ยนจากคำว่า..."ไม่มีความรับผิดชอบ" เป็น "หน้าด้าน" …จะให้ความหมายที่แตกต่างกันไปยังไงหรือเปล่า... เพื่อนๆ คิดเห็นกันเช่นไร เชิญได้ครับ...
ลองให้มีประหาร ยึดทรัพย์เป็นเยี่ยงอย่างสักตระกูลสิขอรับ... รับรองได้... จีนยังทำได้... อย่างเราเริ่มต้นต้อง kill'em all ทั้งโคตรขอรับ เพราะแม่มตั้งใจจะเป็นนายกฯกันยกโคตร... แล้วฟ้าสีทองผ่องอำไพ ละเลงเลือดครั้งใหญ่จะบังเกิดในแผ่นดิน... รับรอง... หึ หึ หึ
แก้ด้วยการออกกฎหมายแรงๆว่าด้วยเรื่องคอรับชั่น เช่นยึดทรัพย์ จำคุก ถอดตำแหน่ง แต่ออกบังคับใช้ต่อเมื่อผู้กระทำผิด กระทำหลังจากออกกฎหมายแล้ว ส่วนคดีที่เกิดก่อน ให้ใช้ตามบทกฎหมายเดิม และต้องเด็ดขาด คนจะได้เกรงกลัว ไม่กล้าทำ
หึหึ นักการเมืองขี้โกง ยังอุตส่าห์เลือกกลับมาเพราะ โกงได้แล้วแบ่ง...... นักการเมืองหน้าไหน มันจะมีต่อมจริยธรรม ความรับผิดชอบให้โง่ กันล่ะ ในเมื่อประชาชนเราเป็นแบบนี้ ไม่ล่มจมไปกับมือ จนอดอยากแดกหญ้าประทังชีวิต คนส่วนใหญ่ไม่สำนึกง่ายๆหรอกประเทศนี้ เลิกคิดเรื่องกฎหมายแรงๆ ให้นักการเมืองกลัวซะเถอะ เดี๋ยวมันกลับมามันก็แก้ได้ เดี๋ยวก็ซิกแซกจนเละเหมือนเดิม เลิกหวังที่จะรนณรงน์ให้ชาวบ้านมีจิตสำนึก เลิกเลือกนักการเมืองขี้โกง เลือกอย่างมีสติ ทำเพื่อประเทศชาติได้แล้ว เพราะชาวบ้านไม่เคยมีมันอยู่ มานานมากแล้ว พวกเค้าทำจนเป็นวัฒนธรรมไปแล้ว ปฎิรูป คิดแค่เอา "พวกเรา" รอดดีกว่า พวกเค้าไม่ตามมาก็เรื่องของเค้า เนื้อร้ายรักษาไม่ได้ก็ปล่อยให้เน่า แล้วตัดทิ้งไป รักษาสิ่งดีๆที่เหลืออยู่ไว้ อย่างน้อยก็มีหวังว่า.... เมื่อเนื้อร้ายตายหมดแล้ว เนื้อดีจะได้รับการปลูกถ่าย ขยายกินพื้นที่เนื้อร้ายให้หมดไป แล้วประเทศไทย จะกลับมาอีกครั้ง
พอกันหมดอ่ะครับ นักการเมืองเลว ข้าราชการกังฉินสอพลอ ควายที่เลือกมันเข้ามาให้โกงกินประเทศ ต้นเหตุของวิกฤตชาติทั้งนั้น
ขอพูดแรงๆเลยครับ นักการเมืองส่วนใหญ่ จะพกสันดานโจรเข้าสภาฯ อมพระทั้งวัดมาพูด ผมก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อว่าพวกเขาจะมีจิตใต้สำนึกที่ดีต่อประเทศและประชาชน เพราะเรามีนักการเมืองที่มีจิตใต้สำนึกเหมือนโจรไงครับ ระบบโกงกินจึงมีทั่วประเทศ ตั้งแต่สูงสุดยันต่ำสุด ถ้าหัวไม่ส่าย หางจะกระดิกหรือครับ
ปัญหาโลกแตก และเป็นเวรกรรมของประเทศชาติ ทางเดียวที่จะสู้รบกับพวกโกงกินได้ คือกฏหมายและบทลงโทษที่เฉียบขาด แต่ใครละจะเป็นผู้กล้า