18 กุมภาพันธ์ 2554 17:04 น. ปัตตานี - ทหารชุดประจำบอลลูนตรวจการณ์ ขึ้นบินสำรวจในระยะไกลเป็นครั้งแรก หลังจากสถานการณ์ในพื้นที่มีการก่อเหตุร้ายถี่ขึ้น และต้องการแสดงแสงยานุภาพอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความทันสมัยหวังให้เกิดความ เกรงกลัวจนลดการก่อเหตุที่หนักในช่วงนี้ลงได้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ทหารชุดประจำบอลลูนตรวจการณ์ หรือเรือเหาะติดตั้งกล้องอินฟราเรดได้ขึ้นบินในระยะไกล จากโรงเก็บกองพลทหารราบที่ 15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อช่วยบินตรวจการณ์ทางอากาศแทนเฮลิปคอปเตอร์ที่ปกติจะต้องบินตรวจการณ์ ดูแลความเรียบร้อยในช่วงเช้าและช่วงตอนเย็น ซึ่งในครั้งนี้เรือเหาะได้เริ่มทดสอบขีดความสามารถด้วยการบินตรวจการณ์และ เก็บภาพตั้งแต่พื้นที่ อ.หนองจิก จนถึงพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี โดยเฉพาะการบินตรวจการณ์ในบริเวณที่จัดงานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มก่อ เหนี่ยว และยังทดสอบการส่งภาพไปยังหน่วยเพื่อประเมินขีดความสามารถ ซึ่งหากมีเหตุการณ์ก็จะสามารถใช้เรือเหาะในการวางแผนติดตาม หรือชี้เป้าจากทางอากาศ รวมทั้งเป็นการฝึกฝนการใช้งานของเรือเหาะให้เกิดความชำนาญอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การนำเรือเหาะขึ้นบินตรวจการณ์ในครั้งนี้ถือเป็นการบินในระยะไกลที่สุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่ยังไม่ได้ขึ้นบินเลย และจากที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงขณะนี้ ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 4 ได้มีแผนในการนำเรือเหาะออกมาใช้ให้ถี่ขึ้น ทั้งนี้ ก็เพื่อให้การปฏิบัติงานด้านการลาดตระเวนทางอากาศ หรือการใช้เรือเหาะเป็นตัวช่วยในการติดตามเป้าหมาย ตลอดจนการช่วยชี้เป้า นอกเหนือจากนั้น คือ ต้องการแสดงแสงยานุภาพในเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความทันสมัยหวังให้ เกิดความเกรงกลัว จนลดการก่อเหตุที่หนักในช่วงนี้ลงได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้ประชาชน ต่างยืนดูเรือเหาะกันอย่างใจจดใจจ่อ บางรายถึงกับบอกว่า เพิ่งเคยเห็นครั้งนี้ครั้งแรกหลังจากที่มีมาหลายเดือนก็ไมเคยเห็นขึ้นบินเลย
การเมือง > ข่าวการเมือง : 15 ธ.ค. 2555 เบื้องลึก'เรือเหาะ'ตกโชว์นายกฯ เบื้องลึก'เรือเหาะ'ตกโชว์นายกฯ จอดซ่อม..เพิ่งปัดฝุ่นใช้2อาทิตย์! จู่ๆ ก็กลายเป็นข่าวครึกโครมสำหรับ "เรือเหาะตรวจการณ์" มูลค่า 350 ล้านบาทของกองทัพบกที่ตกกระแทกรันเวย์สนามบินบ่อทอง จ.ปัตตานี ขณะปฏิบัติภารกิจบินรักษาความปลอดภัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางลงพื้นที่ปลอบขวัญครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แหล่งข่าวในกองทัพเผยว่าความเสียหายเกิดขึ้นบริเวณใบพัดซ้าย-ขวา และห้องควบคุมการบินที่กระแทกพื้นรันเวย์ แต่กล้องไม่เสียหาย เพราะไม่ได้ติดตั้งขึ้นไปกับเรือเหาะด้วย ทั้งนี้ เรือเหาะที่มีชื่อว่า SKY DRAGON หรือ "มังกรฟ้า" ได้รับการบรรจุประจำการที่ กองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ประสบปัญหาผ้าใบ "รั่วซึม" มาตลอด ต้องจอดอยู่ในโรงเก็บมากกว่าที่จะเหินทะยานบนฟ้าสมชื่อ เรือเหาะมังกรฟ้าได้รับการจัดซื้อเมื่อปี 2552 โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ในขณะนั้น) เสนอให้ครม.อนุมัติงบประมาณกลาง ในการจัดซื้อรายการกรณีฉุกเฉินและจำเป็นตามที่กอ.รมน. เสนอ จำนวน 350 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดหาระบบเรือเหาะ พร้อมกล้องตรวจการณ์กลางวัน และกลางคืน กองทัพบกได้จัดซื้อเรือเหาะด้วยวิธีพิเศษจากบริษัท แอเรียล อินเตอร์เนชั่นแนล โคออปเปอเรชั่น ในราคา 350 ล้านบาท และได้รับการผลิตโดยบริษัท เวิลด์ไวด์ แอโรส์ คอร์ป สหรัฐอเมริกา รุ่น Aeros 40 D S/N หรือสกาย ดรากอน (SKY DRAGON) ตัวเรือเหาะมีราคา 260 ล้านบาท ตัวกล้องส่องกลางวัน และกลางคืน รวม 2 ตัว 70 ล้านบาท ส่วนงบที่เหลืออีก 20 ล้านใช้สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์สื่อสารภาคพื้น แต่หลังจากนั้นก็ปรากฏข่าวโครงสร้างผ้าใบรั่วซึมมาโดยตลอดจนแทบไม่ได้ขึ้นบินจนหมดสัญญากับบริษัทผู้ผลิต กระทั่งในเดือนกันยายน 2555 กองทัพบกได้เซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัท เวิลด์ไวด์ แอโรส์ คอร์ป และบริษัท เอ็มแลนดาร์ช จำกัด ให้ซ่อมแซมแก้ไขเพื่อให้เรือเหาะสามารถขึ้นบินได้ด้วยวงเงิน 50 ล้านบาท ตีกลมๆ เฉพาะงบเติมฮีเลียมเดือนละ 2-3 แสนเป็นเวลา 3 ปี และงบซ่อมแซม 50 ล้าน รวมทั้งงบจัดซื้ออีก 350 ล้าน เท่ากับว่า เรือเหาะลำนี้มีมูลค่าทะลุ 400 ล้านบาทไปแล้ว ทั้งนี้ แหล่งข่าวในกองทัพชี้แจงว่า งบซ่อมแซมจะมีทั้งการตรวจสอบและปรับปรุงอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพตามเวลาการใช้งาน รวมถึงที่เสื่อมสภาพจากความร้อนและความชื้นอันเกิดจากสภาพแวดล้อมของพื้นที่ที่ใช้งานด้วย โดยจะเหมาซ่อมทั้งตัวเรือเหาะ ชุดกล้องตรวจการณ์ และระบบถ่ายทอดสัญญาณรับส่งข้อมูล และเพิ่มระยะทางการรับส่งสัญญาณให้ครอบคลุมและกว้างไกลขึ้น “เรือเหาะเพิ่งนำขึ้นปฏิบัติภารกิจเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเปลี่ยนบารอเน็ต จำนวน 2 ลูก ซึ่งเป็นถุงลมที่ทำให้เรือเหาะพองตัว แต่ส่วนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เพราะการลงจอดฉุกเฉินเกิดจากอากาศแปรปรวน” แหล่งข่าวคนเดิมเผยถึงการซ่อมแซมปรับปรุงเรือเหาะที่เพิ่งซ่อมเสร็จ 2 อาทิตย์ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุต่อหน้าต่อตานายกฯ .................... (หมายเหตุ : เบื้องลึก'เรือเหาะ'ตกโชว์นายกฯ จอดซ่อม..เพิ่งปัดฝุ่นใช้2อาทิตย์!:รายงาน) http://www.komchadluek.net/news/politic/147232
กองทัพบกเตรียมปลดระวางเรือเหาะ สกาย ดรากอน (sky dragon) หรือ มังกรเหินฟ้า รุ่น 40DS ออกจากการใช้งานของกองทัพ หลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องตกในเดือนธันวาคมเมื่อปี 2555 ทำความเสียหายอย่างมากต่อเครื่องยนต์ และผ้าใบของเรือเหาะ คาดว่าต้องใช้งบประมาณเกือบ 20 ล้านบาทเพื่อซ่อมแซม โดยไม่มีหลักประกันว่าหลังการซ่อมจะสามารถนำเรือเหาะไปใช้งานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้หรือไม่ เรือเหาะ sky dragon ผลิตโดยบริษัท เวิล์ดไวด์ แอโร่ คอปเปอร์เรชั่น (worldwide aero corporation) จากสหรัฐฯ โดยถูกสั่งซื้อกลางปี 2552 ในยุคที่ี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้บัญชาการทหารบก ในราคา 350 ล้านบาท พร้อมอุปกรณ์ถ่ายภาพระยะไกลคุณภาพสูง 2 ตัว เพื่อใช้ในภาระกิจลาดตระเวนหาข่าวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตลอดช่วงเวลา 3 ปีหลังนำเรือเหาะเก็บรักษาในโรงจอด ภายในกองพลทหารราบที่15 กองทัพภาคที่สี่ ช่วงปลายปี 2552 ไม่เคยมีการนำเรือเหาะลำนี้ขึ้นปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ เนื่องจากมีปัญหาขัดข้องตลอดช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะในเรื่องเครื่องยนต์ที่ไม่สามารถบินสูงเกินกว่าระยะ 1,000 เมตร ซึ่งต่ำกว่าระยะ 2 ถึง 1,000 เมตร ที่กำหนดไว้ ซึ่ง จะเป็นอันตรายจากการถูกยิงจากพื้นดิน และตลอดช่วงเวลาเก็บรักษามีค่าใช้จ่าย ที่สูงมากการขึ้นทดลองเครื่องแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายกว่า 200,000 บาท พล.อ.อนุพงษ์ ได้ อนุมัติการจัดซื้อเรือเหาะหลังฝ่ายอำนวยการของกองทัพเห็นว่าควรจัดหาเรือ เหาะมาใช้ในภาระกิจลาดตระเวนหาข่าวหลังไปดูการทำงานของเรือเหาะในประเทศ อิรัก ในเดือนกันยายน 2555 พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้อนุมัติงบประมาณในการซ่อม 50 ล้านบาท และหลังซ่อมเสร็จอยู่ระหว่างทดลองบินได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องตกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ปี 2555 นายทหารในกองทัพนายหนึ่ง เปิดเผยว่า บริษัทนายหน้าที่กองทัพบกได้ติดต่อในการจัดซื้อได้ปิดกิจการหลังขายเรือเหาะซึ่งเป็นรุ่นต้นแบบ หรือ โพรโตเทป (prototype) ให้กับกองทัพบกในยุคของ พล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งถูกสังคมส่วนหนึ่งตั้งข้อสงสัยถึงความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อยุทธภัณฑ์หลากหลายชนิดของกองทัพ รวมถึงเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิดจีที 200 และเรือนนอนทหารแบบน็อคดาวน์ที่มีทางเข้าออกด้านเดียวไม่เหมาะกับการใชงานในสนาม และถูก พล.อ.ประยุทธ์ สั่งห้ามนำไปใช้งานในสนามเพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียต่อกำลังพลกองทัพ https://news.thaipbs.or.th/content/184449
สงสัย ทบ.ซื้อเรือเหาะ"มือสอง" เทียบราคาส่อแพงเกินจริง 8 เท่า โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา แวดวงธุรกิจเรือเหาะตั้งข้อสงสัย "สกาย ดรากอน" ของกองทัพบกส่อแพงเกินจริง พบบอลลูนยักษ์ของ "แอร์ชิป เอเซีย" ที่นำเข้ามาก่อนหน้า ขนาดใกล้เคียงกัน ราคาแค่ 30 กว่าล้าน แถมอาจซื้อของมือสองหรือไม่ก็ลำที่ใช้ในการสาธิต เหตุสั่งซื้อแค่ 2 เดือนได้ของ ทั้งๆ ที่กระบวนการสั่งผลิตลำใหม่ใช้เวลาเกือบปี ยังคงมีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมของโครงการจัดซื้อ "เรือเหาะตรวจการณ์" เพื่อใช้ในภารกิจแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามรัฐบาลถึงราคาเรือเหาะที่แพงเกินจริง เพราะบริษัทกันตนา กรุ๊ป ซื้อมาถ่ายทำภาพยนตร์ในราคาเพียง 30 ล้านบาท แต่ของกองทัพบกซื้อในราคาถึง 350 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ต่อมาผู้บริหารบริษัทกันตนาฯออกมาชี้แจงว่าทางบริษัทไม่ได้เป็นเจ้าของเรือเหาะ แต่เช่ามาจากบริษัทแอร์ชิป เอเซีย นั้น ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า กองทัพบกโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในฐานะที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลให้ใช้งบประมาณจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ ทำสัญญาซื้อ “ระบบเรือเหาะตรวจการณ์” จาก บริษัทเอเรียล อินเตอร์เนชันแนล คูเปอเรชัน (Arial International Cooperation) โดยเรือเหาะลำนี้ผลิตโดยบริษัท Worldwide Aeros Corp. ประเทศสหรัฐอเมริกา รุ่น Aeros 40D S/N 21 หรือ สกาย ดรากอน (SKY DRAGON) กระนั้นก็ตาม มีข้อสังเกตจากบุคคลในแวดวงธุรกิจเรือเหาะว่า ราคาเรือเหาะที่กองทัพจัดซื้อน่าจะแพงเกินไป เพราะเรือเหาะของบริษัทแอร์ชิป เอเซีย ที่นำเข้าและจดทะเบียนก่อนที่กองทัพจะจัดซื้อ และมีขนาดใกล้เคียงกับเรือเหาะ “สกาย ดรากอน” นั้น มีราคาเพียง 30-35 ล้านบาทเท่านั้นเอง "เรือเหาะที่มีขนาดใกล้เคียงกับที่กองทัพจัดซื้อมากที่สุด คือเรือเหาะลำที่บริษัทแอร์ชิป เอเซีย นำเข้ามา โดยมีวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ราคาราว 30-35 ล้านบาทเท่านั้น" เฉพาะ"บอลลูน"แพงกว่าร่วม 200 ล้าน แหล่งข่าวซึ่งอยู่ในวงการธุรกิจเรือเหาะ อธิบายต่อว่า เรือเหาะของบริษัทแอร์ชิป เอเซีย มีขนาดยาว 34 เมตร ขณะที่ของกองทัพ ตามสเปคที่นำเสนอสู่สาธารณะก่อนหน้านี้ มีขนาดยาว 47.35 เมตร ซึ่งก็ถือว่าไม่ใหญ่กว่ากันมากนัก แต่ราคาเฉพาะตัวบอลลูนกลับสูงถึง 230-260 ล้านบาท "เรือเหาะ 1 ลำมีองค์ประกอบ 2 ส่วนหลักๆ คือตัวบอลลูน กับส่วนที่เป็นห้องนักบินติดเครื่องยนต์ ซึ่งเรือเหาะทุกลำจะมีเหมือนกันหมด ส่วนกล้องตรวจการณ์จะเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก จากเอกสารที่กองทัพเคยเปิดเผยออกมาระบุว่าเฉพาะตัวเรือบอลลูนมีราคา 260 ล้านบาท แต่เท่าที่ผมทราบในวงการที่พูดกันคือ 230 ล้านบาท ก็เท่ากับแพงกว่าเรือเหาะของแอร์ชิป เอเซีย ถึง 200 ล้าน จึงมีเสียงวิจารณ์กันในหมู่คนที่รู้เรื่องเรือเหาะว่า ทำไมถึงเอากำไรกันมากมายขนาดนี้" แฉเติมฮีเลียมสุดแพงครั้งละ 3 ล้าน แหล่งข่าวคนเดิม ยังให้ข้อมูลอีกว่า กระบวนการผลิตบอลลูนของเรือเหาะแต่ละลำไม่ค่อยต่างกันนัก หรือจะเรียกว่าเหมือนกันทั้งโลกก็ว่าได้ เพราะบอลลูนที่ได้มาตรฐานสากลแทบจะผลิตจากแหล่งเดียวกันหมด คือใช้วัสดุสังเคราะห์พิเศษ มีความหนา 7 ชั้น ชั้นในเป็นตาข่ายป้องกันอะตอมก๊าซฮีเลียมรั่ว ส่วนชั้นนอกโดยมากเป็นสีครีม เพื่อป้องกันรังสียูวี ไม่ให้เกิดความร้อนจนทำให้ให้ฮีเลียมขยายตัวเร็ว "บอลลูนลอยได้เพราะอัดก๊าซฮีเลียมเข้าไป ส่วนเครื่องยนต์ที่ติดอยู่กับห้องนักบินจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้บอลลูนเดินหน้าช้าหรือเร็ว ขณะที่แพนหางเป็นตัวบังคับขึ้น-ลง ก๊าซฮีเลียมนั้นเติมกันครั้งละ 7-8 แสนบาท แต่ของกองทัพได้ข่าวว่าเติมครั้งละ 3 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงแพงกว่าที่ควรจะเป็น" สงสัย ทบ.ซื้อเรือเหาะมือสอง ทั้งนี้ แม้จากข้อมูลจะค่อนข้างชัดเจนว่า เรือเหาะของกองทัพไม่ได้ซื้อต่อจากบริษัทในประเทศ แต่ในวงการธุรกิจเรือเหาะก็ยังตั้งข้อสงสัยว่า เป็นเรือเหาะที่ผลิตขึ้นใหม่จริงหรือไม่ "การผลิตเรือเหาะแต่ละลำจะต้องมีการขึ้นทะเบียนว่าผลิตปีไหน อย่างไร เรือเหาะที่กองทัพบกซื้อ ถ้าเป็นของใหม่จริงต้องมีหลักฐานการขึ้นทะเบียน ถ้าไม่ใช่ของใหม่ก็ตรวจสอบได้ ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยก็เพราะการสั่งซื้อเรือเหาะแต่ละลำต้องใช้ระยะเวลาในการผลิต สั่งแต่ละครั้งเกือบ 1 ปี แต่กองทัพบกมีเวลาเพียงพอแค่ไหนที่จะผลิตของใหม่ หรือใหม่เฉพาะเครื่องยนต์" แหล่งข่าว ตั้งข้อสังเกต และว่า หากไม่ได้จัดซื้อของใหม่ หรือไปซื้อลำที่บริษัทผู้ผลิตใช้ในการสาธิต จะส่งผลถึงอายุการใช้งาน เพราะเรือเหาะใหม่แต่ละลำมีอายุการใช้งาน 5-7 ปี ส่วนห้องนักบินมีอายุมากกว่า ฉะนั้นหากไปซื้อต่อมือสองมา ราคาที่จัดซื้อก็จะยิ่งแพง เนื่องจากอายุใช้งานจะสั้นกว่าที่ควรจะเป็น อนึ่ง เรือเหาะตรวจการณ์ ได้รับอนุมัติจัดซื้อจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2552 และมีการลงนามจัดซื้อระหว่างกองทัพบกกับบริษัทเอเรียล อินเตอร์เนชันแนล คูเปอเรชัน เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ปีเดียวกัน จากนั้นเรือเหาะก็ถูกส่งถึงท่าอากาศสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2552 กอ.รมน.ยอมรับระบบยังไม่พร้อมใช้งาน สำหรับข้อมูลจำเพาะของเรือเหาะลำนี้ คือรุ่น Aeros 40D S/N 21 (SKY DRAGON) ผลิตโดยบริษัท Worldwide Aeros Corp. ประเทศสหรัฐอเมริกา ขนาดกว้าง 34.8 ฟุต (10.61 เมตร) ยาว 155.34 ฟุต (47.35 เมตร) สูง 48/3 ฟุต (13.35 เมตร) ความจุฮีเลี่ยม 100,032 ลูกบาศก์ฟุต (2,833 ลูกบาศก์เมตร) ระยะความสูงที่สามารถปฏิบัติงานได้ 0 -10,000 ฟุต (0-3,084 เมตร) ระยะความสูงปฏิบัติการ 3,000-5,000 ฟุต ความเร็วสูงสุด 88 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วเดินทาง 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์ 2 คูณ 125 HP 4-Cylinder, Continental IO-240 B ความจุเชื้อเพลิง 76 แกลลอน (300 ลิตร) บินได้นาน 6 ชั่วโมง เกณฑ์การสิ้นเปลือง ณ ความเร็วสูงสุด 50 ลิตรต่อชั่วโมง ระยะทางที่บินได้ไกลสุด ณ ความเร็วสูงสุด 560 กิโลเมตร ชนิดเชื้อเพลิงที่ใช้ 100 LL Grade Aviation Fuel ความจุห้องโดยสาร 4 นาย (นักบิน 2 นาย ช่างกล้อง 1 นาย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 1 นาย) ทั้งนี้ หลังจากเรือเหาะถูกส่งถึงประเทศไทย ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่จากกองทัพบกไปฝึกการใช้งานเรือเหาะตรวจการณ์กับทางบริษัทผู้ผลิต และได้มีการก่อสร้างโรงจอดที่กองพลทหารราบที่ 15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อโรงจอดสร้างเสร็จ จึงเคลื่อนย้ายเรือเหาะไปไว้ที่โรงจอดดังกล่าวตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเริ่มทดลองใช้ ทว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจรับและใช้งานจริงได้ พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า ขณะนี้เรือเหาะยังไม่พร้อมใช้งาน แต่เมื่อพร้อมใช้งานจริงจะมีระบบเชื่อมสัญญาณระหว่างตัวเรือเหาะกับภาคพื้นทั้งหมด 30 จุด ทั้งหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ในพื้นที่ และกองบัญชาการกองทัพบก แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งยังไม่เรียบร้อย http://www.isranews.org/south-news/scoop/item/1650-qq-8.html
เอ้า.......... ช่วยๆกันให้กำลังควายหน่อยครับ อุตส่าห์สงเคราะห์เอาข่าววงในล่าสุดเมื่อ4เดือนที่แล้วมาเปิดหูเปิดตาสมาชิกสมาชิก
ขำดี ยิ่งเอามาแล้วประกาศว่าโกง ก็ยิ่งประกาศว่าทักกี้กับปูโกงด้วยซิ ปชต.นี้มันดีจริงๆ อย่างนี้ซินะถึงเปลี่ยนร่าง เปลี่ยนเป็นคนกลาง จะได้ด่าง่ายๆ ด่าใครก็ไม่กระทบภาพลักษณ์จอมปลอม ด่าทักกี้ ทิ้งเสื้อแดงติดคุก ทิ้งพวกจ่านิว อ้างธรรมกาย ที่รีบด่าคนอื่นตระบัดสัตย์เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องตัวเองซินะ นักปฏิวัติเราไม่เคยกลัวตาย แม้ร่างกายจะมลายดับสูญ อุทิศชีวิตเพื่อประชาสุขสมบูรณ์ จะเทิดทูนอุดมการณ์นิรันดร์ไป... ใครพูดครับ ปัจจุบันทำอะไรบ้างหรือยัง พูดตั้งแต่ตอนอ้างอยู่เสื้อแดง ปัจจุบันก็หนีเขามา อย่างนี้เรียกตระบัดสัตย์ไหม
อุ๊บส์................ ลืมดูพ.ศ. ข่าวนี่มันตั้ง5ปี4เดือนแล้วนี่หว่า ไม่ใช่แค่4เดือน ผมนี่ชักสะเพร่าใกล้ๆควายแดงเข้าไปแล้ว
ผมเดาว่า คนในระบอบทักษิณกำลังเบี่ยงเบนประเด็นเรื่อง จีที 200 ว่าซื้อครั้งแรกในยุคของใคร เลยพยายามเล่นงานประเด็นทหาร และหมอพรทิพย์