‘กรณ์’โพสต์ ทุกคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ คนหาเช้ากินค่ำนับล้าน มองไม่เห็นอนาคตตัวเอง เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Korn Chatikavanij ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ระบุว่า เมื่อวันก่อนผมมีนัดคุยกับผู้บริหารธนาคารเกียรตินาคินเรื่องฟินเทคที่ซอยทองหล่อ พอคุยเสร็จพวกผมก็เดินออกมาหาไอศกรีมกินเล่นกับทีมงาน เนื่องจากแถวนี้เคยเป็นเขตเลือกตั้งผม ก็เลยคุ้นเคยกับแม่ค้าและวินมอเตอร์ไซค์ที่หากินอยู่ริมถนนแถวนั้นอยู่หลายคน ไม่ได้เจอกันนานก็หยุดทักทายพูดคุยกัน ทุกคนบ่นเรื่องเศรษฐกิจ ค้าขายฝืด ค่าครองชีพแพง วินคนหนึ่งบอกกับผมว่า “ต่อให้หมื่นประชาธิปัตย์ แสนเพื่อไทย ล้านทหาร พวกเราก็ยังจะจนเหมือนเดิม” ผมฟังแล้วก็สะเทือนใจ เลยเอากลับมาคิดต่อที่บ้าน ยอมรับว่าที่เขาพูดคือความจริงในระดับหนึ่ง (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) ความจริงคือคนไทยโดยรวมในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา (ที่มีทั้ง ปชป. ทักษิณ และหลายนายพลผลัดกันบริหารบ้านเมือง) มีสถานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาก โอกาสหลายๆ เรื่องดีขึ้น เด็กได้เรียนหนังสือ คนป่วยได้หมอได้ยา คนชราได้เบี้ยยังชีพ แทบทุกคนได้ใช้อินเตอร์เน็ตในราคาที่ไม่แพงมาก ผมยังเคยมีส่วนในการร่วมทำงานเพื่อช่วยให้แรงงานนอกระบบอย่างวินสามารถเป็นสมาชิกประกันสังคมได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มหาเช้ากินคํ่ายังมีนับล้านคน และคนกลุ่มนี้วันนี้มองไม่เห็นว่าอนาคตตัวเองจะดีขึ้นอย่างไร นี่คือโจทย์ของผู้มีอำนาจและนักการเมืองครับ เราไม่ต้องทำให้เขารวย แต่เราต้องลดความเดือดร้อนให้เขา และในขณะเดียวกันสร้างความเชื่ออย่างซึ้งใจว่าหากลูกหลานเขาขยัน ก็จะมีโอกาสที่ดีกว่าเขาได้ ไม่ใช่เกิดมาในบ้านยากจนก็ต้องจนตลอดไป http://www.matichon.co.th/news/267573
ตกต่ำขนาดต้องใช้คนที่ตัวเองด่าบังหน้า นั้นซินะ สำหรับมือดี ทักกี้ก็กลายเป็นมือวางระเบิดไปแล้ว เสื้อแดงก็หมดประโยชน์ทำเงินไม่ได้
นึกอะไรออกมั๊ย เศรษฐกิจ กำลังเลี้ยงตัว จู่ๆ นโยบายเหี้ยๆ จำนำข้าว 15000 ค่าแรง 300 รถคันแรกเกิดขึ้นมา กระบวนการพัฒนาสายพันธ์ข้าวหายไป กลายเป็นปลูกยังไงก็ได้ ให้มีข้าวไปจำนำ เงินหายไปจากคลังกี่แสนล้านโดยไม่เกิดประโยชน์ ค่าแรง 300 ฉุดค่าครองชีพ อาหาร ยา ปัจจัย 4 และสินค้าทุกชนิดกระเถิบตามขึ้นไป คนชั้นกลางตายก่อน เพราะไม่ได้ค่าแรงขึ้น คนชั้นแรงงานตายตามมา เพราะมีเลิกจ้าง เพราะสู้ไม่ไหว และราคาสินค้ากระเถิบตาม กลายเป็นค่าแรงขึ้นเท่าไหร่ ก็ไม่พอกิน นายจ้างตายตาม เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายค่าแรง แรงงานไทยตายทั้งกระบิ เพราะเจอแรงงานต่างด้าวเข้ามาสูบเงินไม่เกี่ยงงาน ขณะแรงงานไทย นั่งรอแต่รัฐบาลขึ้นค่าแรงตามค่าใช้จ่ายให้ รถคันแรก ทำลายระบบการลงทุนของต่างชาติ ผสมกับค่าแรง 300 หมาที่ไหนจะอยากมาลงทุน ถ้าประเทศอื่นๆ มีค่าแรงที่ถูกกว่า ค่าแรงขึ้นไปแล้ว รัฐบาลไหนๆ ที่ตามหลังมา จะมีปัญญาลดให้กลับไปอยู่ในที่ที่ควรได้มั๊ย รังแต่ต้องมาคอยแก้ปัญหา ตามล้างตามเช็ด ปัญหาที่รัฐบาลเหี้ยๆ สร้างเอาไว้ เพียงเพราะต้องการเอาใจคนบางกลุ่ม ให้ได้มาอวยกันตามเวปบอร์ด
ความจริงคือคนไทยโดยรวมในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา (ที่มีทั้ง ปชป. ทักษิณ และหลายนายพลผลัดกันบริหารบ้านเมือง) มีสถานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาก โอกาสหลายๆ เรื่องดีขึ้น เด็กได้เรียนหนังสือ คนป่วยได้หมอได้ยา คนชราได้เบี้ยยังชีพ แทบทุกคนได้ใช้อินเตอร์เน็ตในราคาที่ไม่แพงมาก ผมยังเคยมีส่วนในการร่วมทำงานเพื่อช่วยให้แรงงานนอกระบบอย่างวินสามารถเป็นสมาชิกประกันสังคมได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มหาเช้ากินคํ่ายังมีนับล้านคน และคนกลุ่มนี้วันนี้มองไม่เห็นว่าอนาคตตัวเองจะดีขึ้นอย่างไร
"ความจริงคือคนไทยโดยรวมในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมา (ที่มีทั้ง ปชป. ทักษิณ และหลายนายพลผลัดกันบริหารบ้านเมือง)" เขาพูดถึงโดยรวม...
อ่านของคุณกรณ์มา 2 วันแล้วมั้ง ประเด็นที่คุณกรณ์ต้องการสื่อจริงๆก็คือ ไม่ว่าใครก็ตามมาเป็นรัฐบาล เศรษฐกิจที่เอาตัวเลขมาคุยกันดีแค่ไหน ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังจนเหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้นตามตัวเลขเศรษฐกิจ เป็นเพราะขาดโอกาสในการเข้าถึง ? มันเป็นโจทย์ที่ภาครัฐฯ ต้องนำมาแก้ไข อเมริกาเศรษฐกิจดี ก็ยังมีคนไร้บ้าน ญี่ปุ่นยังมีคนที่ขอติดคุกเพราะกลัวเรียนจบไม่มีงาน
หูย กรณ์เขียนอย่างนี้เสื้อแดงยังเอามาบิดเบือนด่ารัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามได้ ไม่ใช่เสื้อแดงทำไม่ได้นะเนี่ย
จริงแล้วน่าจะบอกว่ายุคปูมากกว่าที่เศรษฐกิจไม่ดี ถึงขนาดคนที่บอกว่าได้เงินเดือน 15000 ยังต้องทรยศเพื่อนเพื่อเงิน 20 บาทเลย
รวยกระจุก จนกระจาย ยังเหมือนเดิม ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน นี่ยังกล้าโหนอดีตรัฐมนตรีคลัง ที่สื่อนอกเคยให้รางวัลรัฐมนตรีคลังโลก กับรัฐมนตรีคลังแห่งเอเชีย 2010 เนี่ยนะ
อาชีพขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ใครมาเป็นรัฐบาลก็ทำให้รวยไม่ได้หรอก แต่เขาทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นได้ เช่นมีสวัสดิการเรื่องสุขภาพ เงินออม หรือไม่ถูกรีดไถ เพราะฉะนั้น เอาแค่มีชีวิตที่ดีขึ้นก็พอมั้ง อย่าไปยึดติดกับคำว่า รวย หรือจน มากนัก เพราะคนบางพวกบางกลุ่มมีรายได้เดือนละแสนกว่าบาท ยังเห็นบ่นกันว่าจนอยู่เลย ต้องไปหารายได้เสริมโดยการโกงชาติโกงแผ่นดินไปเลี้ยงครอบครัวกัน จงภูมิใจในความเป็นคนจนเถิด เพราะถ้าไม่มีพวกคุณ เราอาจไม่รู้เลยว่า ทักษิณเป็นคนรวย เพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบ
อุ๊ย เผด็จการกลั่นแกล้งเรื่องไม่รับร่างรึเปล่าเนี่ย http://goo.gl/KiKykl มิชลิน บริสโตน 2 ค่ายยางล้อรถยนต์ระดับโลก ประกาศแบนยางพาราในพื้นที่ภาคอีสานของไทย หลังพบมีการใส่ "กรดซัลฟิวริก" ในน้ำยาง เพื่อช่วยให้ยางเซทตัวเร็ว เนื่องจากส่งผลต่อคุณภาพยางล้อเสื่อมสภาพเร็ว โดย เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากนายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรัง แอโกรอินดัสทรี ระบุว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากบริษัทมิชลิน และบริสโตน 2 ค่ายยางล้อรถยนต์ระดับโลก ประกาศไม่รับซื้อผลผลิตยางพาราในพื้นที่ภาคอีสานของไทย และตัดสินใจพับแผนก่อสร้างโรงงานมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาทในภาคอีสาน หลังพบว่า กว่าร้อยละ 80% ของพื้นที่มีการใช้"กรดซัลฟิวริก"ใส่ในน้ำยาง เพื่อให้น้ำยางเซทตัวเร็ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องถึงคุณภาพและอายุการใช้งานของยางล้อรถ ยนต์สั้นลง นอกจากนี้กรดดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่ออายุต้นยาง จากเดิมที่มีอายุการกรีดนาน 30 ปี เหลือแค่ 15 ปีเท่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้จะมีการเข้าหารือกับคณะอนุกรรมาธิการการเกษตร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNU5qRTROVEF6TVE9PQ==&subcatid= ตำรวจ 191 บุกจับสาว กปปส. ค้ายาบ้า - ยาไอซ์ พร้อมอุปกรณ์การเสพ เศษกิจดีดี๊ การค้ายาบ้าคล่อง ตอนม็อบขอทานออกมาชุมนุม
ไม่จริงครับ ยุคปูแย่สุดแล้ว ขนาดมือดีที่อ้างมีคุณธรรม ฉลาดที่สุดในโลก ยังได้เงินแค่ 15000 แถมต้องทรยศเพื่อนเพื่อขโมยผลงานมารับจ้างโพส 20 บาท แล้วคนอื่นที่มือดูถูกว่าต่ำกว่าจะมีเงินเท่าไหร่กัน
ไอ้พวกขายยาพวกนี้เป็นเสื้อแดงแฝงตัวเข้ามา การ์ดจำได้เลยแจ้งตำรวจจับ ทั้งหมดสารภาพปกติขายในกลุ่มชุมนุมเสื้อแดงแต่ช่วงนั้นไม่มีชุมนุมเลยมามั่วในชุมนุมกปปส.จนโดนการ์ดแจ้งจับ กร๊าาากกก
ของเก๊สืไม่ว่า ไม่รู้มันจะพล่ามบ่นอะไรนักหนา ข้อมูลจากขี้ปากเลื่อนลอยไร้มีน้ำหนัก ส่วนใหญ่เน้นไปทางนึกคิดเอาเอง มโนน้ำแตกซะมากกว่า มีรูโหว่ให้โดนสอยเพียบ รอดูนะ คนไปไม่เป็น คนมันจะมาแถ มันจะเป็นยังไง ...... อันดับแรกอ่ะนะ ค่าแรง 300 ฉุดค่าครองชีพ อาหาร ยา ปัจจัย 4 และสินค้าทุกชนิดกระเถิบตามขึ้นไป คนชั้นกลางตายก่อน เพราะไม่ได้ค่าแรงขึ้น ไหนลองเอาตัวอย่างมาสักสองสามตัวอย่างสิ ที่ว่าสินค้าทุกชนิดกระเถิบตามขึ้นไปค่าแรงสามร้อย ...... ก่อนขึ้นค่าแรงสามร้อย ราคามันอยู่ที่เท่าไร กี่บาท หลังขึ้นค่าแรงสามร้อย ราคามันขยับขึ้นไปอยู่ที่เท่าไร กี่บาท ..... ขอแหล่งอ้างอิง หรือข้อมูลที่น่าเชื่อ มากกว่าขี้ปากที่พ่นออกมาสิtonythebest ...... ส่วนคนชั้นกลางตายก่อน เพราะไม่ได้ค่าแรงขึ้น ก็เค้าขึ้นให้คนที่จบปริญญา 15000 เเล้วไง แบบนี้เรียกขึ้นเงินให้คนชั้นกลางหรือเปล่า รึคนชั้นกลางไม่ใช่คนแบบนี้ ที่จบ ป.ตรี มันเป็นคนแบบไหน คนชั้นกลาง จะได้ขี้นเงินให้ถูก มันทำงานอะไรละ กินอยู่แบบไหน ถึงจะเรียกคนชั้นกลาง
หราาาาา ไม่เคยได้ยินข่าวเลยนิ ตอนที่เสื้อแดงชุมนุมมีการค้ายา ทำไปได้เนอะ เสื้อแดงว่างจัด เลยแฝงตัวเข้ามาค้ายา เราเป็นม็อบคนดี มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่มีไม่มี๊เรื่องเลวๆแบบนี้หรอก อ๋อ เเล้วกรรมการบริหาร พรรค ที่เป็นเอเย่นรายใหญ่ถูกจับค้ายาบ้าล่ะ สงสัยก็คงเป็นเสื้อแดง แฝงตัวเข้าไปเป็นกรรมการบริหารพรรค ปชป สิเนอะ ...... อุ๊ยตายแล้ว มาร์ค สุเทพ นายหัวชวน กรณ์ เป็นเสื้อแดงแฝงตัวเข้ามาในพรรครึเปล่าเนี้ย เริ่มสงสัยแระ
เอาง่าย ๆ นะครับ ถ้าแรงงานตอนนี้กลับไปได้ขั้นต่ำน้อยกว่า 300 บาทนี่คืออยู่กันไม่ได้แล้วครับ แต่เมื่อก่อนตอนได้น้อยกว่า 300 ยังอยู่กันได้อยู่ ทำไม? ส่วนปริญญาตรี 15,000 นี่คือไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้นะครับ เพราะฉะนั้นคนจบปริญญาตรีทุกวันนี้ได้ไม่ถึงหมื่นห้าก็มีครับ เสื้อแดงก็คงจะขุดเรื่องนี้มาเรื่อย ๆ เหมือนชั่งไข่มาร์คหนีทหารล่ะนะ อย่างว่าไม่ค่อยมีให้เล่นเสียด้วย ไม่เหมือนของพรรคแม้วที่ตนเองเชียร์ที่มีแผลเหวอะหวะเต็มไปหมด ถามหน่อยเถอะว่าคนรับเข้าพรรค ปชป. ต้องเป็นผู้วิเศษใช่ไหม ต้องมีญาณรู้ว่าใครทำเรื่องไม่ดีงั้นรึเปล่าเพื่อจะกรองคนเข้าพรรคได้ถึงจะพอใจ แล้วตำรวจจับได้ ปชป. ออกมาป้องป้องคนผิดไหมล่ะ? เหมือนกับพรรคแม้วที่มีโจรอยู่ในพรรคทำผิดติดคุกแล้วก็มาปกป้องกันไหม?
เอาง่าย ๆ นะครับ ถ้าแรงงานตอนนี้กลับไปได้ขั้นต่ำน้อยกว่า 300 บาทนี่คืออยู่กันไม่ได้แล้วครับ แต่เมื่อก่อนตอนได้น้อยกว่า 300 ยังอยู่กันได้อยู่ ทำไม? ส่วนปริญญาตรี 15,000 นี่คือไม่ได้เป็นกฎหมายบังคับใช้นะครับ เพราะฉะนั้นคนจบปริญญาตรีทุกวันนี้ได้ไม่ถึงหมื่นห้าก็มีครับ ============================================== กลับไปค่าแรงขั้นต่ำน้อยกว่า 300 บาท คุณบอกว่าอยู่กันไม่ได้ อันนี้ผมเห็นด้วย ..... คุณถามเมื่อก่อนตอนได้น้อยกว่า 300 บาททำไมถึงอยู่กันได้? อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยนะครับ ที่อยู่กันได้ มันจะอยู่กันได้ยังไงล่ะ ก่อนที่จะมีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ค่าแรงคนไทยตกอยู่ที่ประมาณ 175 บาท มันจะพออยู่พอกินกันหรือครับ เงินแค่นี้ เป็นคุณ คุณจะพอหรือเปล่า วันละ 175 บาท ........ กะอีแค่ขึ้นค่าแรงเป็น300 บาท จากได้วันละ 175 บาท ให้เค้าพออยู่ พอจะมีกินจับจ่ายใช้สอย ส่งลูกเรียนได้บ้าง แต่ทำไมคนบางกลุ่ม จะเป็นจะตายเอาเสียให้ได้ มันไปทำให้คนกลุ่มนี้เสียผลประโยชน์อะไรหรือ ตอนมาร์คใช้นโยบาย เช็คช่วยชาติ สองพันบาท แจกฟรีๆ ไม่เห็นมีกลุ่มแรงงาน มาคัดค้าน ชักดิ้นชักงอ อะไรเลยนิ ...... พวกหน้าเลือด .......
จะมองในแง่ดีว่าไม่เข้าใจจริง ๆ แล้วจะอธิบายเพิ่มก็ได้ โอเคก่อนมี 300 ก็อยู่กันลำบากนั่นแหละ แต่ถามว่าถ้าตอนนี้ลดเงินให้เหลือเท่ากับก่อน 300 จะเป็นยังไง? ถ้า 300 ไม่มีผลเรื่องค่าครองชีพเลยมันก็ต้องเป็นว่าระดับความลำบากเท่าเดิมใช่ไหม? แต่ผลคือมันจะลำบากกว่าเดิมก่อนมี 300 เยอะไง แสดงว่า 300 มันส่งผลเรื่องค่าครองชีพเพิ่มถูกไหม แล้วมี 300 แล้วก็ใช่ว่าจะสบายขึ้นเยอะอะไร เผลอ ๆ คือเท่าเดิมก่อนมี 300 เพราะอย่างนี้คนถึงคัดค้าน 300 ไงว่ามันไม่ได้ตอบโจทย์ แล้วก็เสนอวิธีอย่างเน้นเรื่องเพิ่มกับแรงงานฝีมือ ส่งเสริมเรื่องฝีมือแรงงานอะไรต่าง ๆ จะได้ผลดีกว่าอะไรก็ว่าไป เสื้อแดงก็มาหาว่าเขาหน้าเลือดอีก
ถามจริงมือดีฯ ค่าวันละ 300 ตอนนี้มันพอแดกไม๊กับค่าคริงชีพปัจจุบัน มันเหมือนพูดหลอกตัวเองไปวันๆ คราวหน้ามาใหม่ เอาค่าแรงวันละ 800 ป.ตรี 25,000 เลยดีไม๊ ค่าแรงเยอะๆเงินเยอะมีใครหน้าใหนจะไม่ชอบ แต่ถามว่าถ้าขึ้นพรวดพลาดผลกระทบตามมามีอะไรบ้างเคยคิดหรือเปล่า พูดเอาแต่ได้ไม่เคยพูดผลเสีย ใจจริงกูอยากให้ข้าวเปลือกเกวียนละ 50,000 อ้อยตันละ 2,500 ข้าวโพดเกวียนละ 40,000 มันฯตันละ 8,000 เกษตรกรเขาจะได้รวยซักที แต่ความจริงมันเป็นไปไม่ได้ทุกคนก็รู้ชาวนารู้ชาวไร่รู้ ทุกวันนี้เกษตรกรคืออาชีพที่เสี่ยงที่สุดจนที่สุดมีภาระหนี้มากที่สุด แค่ผลงานขี้เปี๊ยก 300กับ15,000 ทำโชว์ สุดท้ายมันก็วนกลับมาอยู่ที่เดิมคือไม่พอแดก
ก็แปลว่าปริญญาตรีได้หมื่นห้าก็เป็นการโกหก ส่วนเรื่องเช็คช่วยชาติ ตลกดี คนที่อ้างว่าฉลาดกลับไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร
ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง จริงๆอ่านแล้วก็นึกค้านนิดๆ เอาเป็นว่าลองอ่านชีวิตของคุณบรรจง ชีวมงคลกานต์ดูครับ ข้อคิดดี ๆ จากคนขายหมูปิ้ง แม้ขายได้เดือนละ 3 ล้านไม้ สร้างรายได้ปีละ 200 ล้านบาท
.....สินค้าเตรียมพาเหรดขึ้นราคา ขณะที่ นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ผู้ผลิตสินค้าเริ่มเจรจากับคู่ค้าในการขอปรับขึ้นราคาสินค้าแล้วหลังจากต้นทุนการผลิตเพิ่มต่อเนื่อง และตรึงราคาสินค้ามาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเบื้องต้นผู้ค้าอาจทยอยปรับราคาขายปลีกสินค้าบางชนิดที่ไม่อยู่ในการควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ในเดือน พ.ค.นี้ โดยตลาดในประเทศนั้นคงปรับเล็กน้อย ไม่ปรับตามต้นทุนค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น 5-6% ส่วนตลาดต่างประเทศอาจปรับราคาสูงในสินค้าที่เป็นผู้ส่งออกหลัก เช่น สับปะรดกระป๋อง, ปลาทูน่า และเกษตรแปรรูป แต่อุตสาหกรรมที่เป็นผู้ส่งออกรายเล็กๆ คงปรับขึ้นยาก เพราะว่าลูกค้าจะหันไปซื้อสินค้าจากเวียดนาม จีน และอินโดนีเซียแทนได้ เนื่องจากยังไม่ประสบปัญหาต้นทุนค่าแรงเหมือนไทย "สินค้าต่าง ๆ หลายรายการตามร้านโมเดิร์นเทรด รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่างปิดป้ายประกาศว่าราคาสินค้าจะอยู่ในราคานี้ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นไปได้ว่าสินค้าในร้านเหล่านี้จะทยอยปรับราคาใหม่หลังจากที่ได้กำหนดไว้ เพราะผลกระทบต้นทุนวัตถุดิบและค่าจ้างที่สูงขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่เก็บสต็อกสินค้าเฉลี่ยที่ 1-2 เดือนเท่านั้น" รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เผยว่า จากการสำรวจราคาสินค้าอาหารสดในตลาดกรุงเทพฯ หลังเทศกาลสงกรานต์ เมื่อเปรียบเทียบราคาก่อนเทศกาล พบว่า ราคาอาหารสดปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบทุกชนิด โดยเฉพาะหมูเนื้อแดง ขึ้นจาก กก.ละ 110-115 บาท เป็น กก.ละ 120-130 บาท รวมถึงไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องในปรับขึ้นจากตัวละ 52-55 บาท เป็น 62-65 บาท และไข่ไก่เบอร์ 3 ขึ้นจากฟองละ 2.40-2.50 บาท เป็นฟองละ 2.80-2.90 บาท ผักสดพบส่วนใหญ่ก็เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เช่น ผักคะน้าอยู่ที่ กก. 50-52 บาท จากเดิม 30-32 บาท ผักบุ้งจีน 20-22 บาท ขึ้นจาก 18-20 บาท ผักกาดขาวปลี กก.ละ 40-42 บาท จาก 20-25 บาท และถั่วฝักยาว กก.ละ 52-55 บาท ขึ้นจาก 32-35 บาท ซึ่งสาเหตุที่ราคาผักสดปรับเพิ่มขึ้นมากเกิดจากปีนี้อากาศแล้งกว่าปกติ สินค้าพุ่งรับค่าแรง 300 บาท รายงานแจ้งอีกว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในกรุงเทพฯ หลังปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ พบว่า ราคาสินค้าได้เริ่มทยอยปรับราคาหลายรายการ โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ผักและผลไม้ และเครื่องดื่ม โดยเฉพาะสินค้าที่มีน้ำหนักบรรทุกมาก เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด ขนาด 1.5 ลิตร แพ็กละ 6 ขวด ขึ้นราคาขายส่งจากเดิม 56 บาท เป็น 58 บาท รวมทั้งราคาขายปลีกยังเกินราคาแนะนำที่กรมการค้าภายในกำหนดไว้ขวดละ 14 บาท น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย ขึ้นจากขวดละ 31-32 บาท เป็น 34-35 บาท, กาแฟกระป๋องปรับจาก 12-13 บาท เป็นกระป๋องละ 14-15 บาท ส่วนกลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน เช่น ตู้ เตียง ชั้นวางของ ไม้อัด เก้าอี้เหล็กอะลูมิเนียม รวมถึงกระบอกน้ำพลาสติกได้แจ้งว่าสินค้ารอบใหม่ที่จะเข้ามาตั้งแต่เดือน พ.ค.นี้ จะปรับราคาขึ้นขั้นต่ำอีก 5-10% เพราะได้รับผลกระทบจากค่าแรงและน้ำมันที่สูงขึ้น...... http://www.labourcrisiscenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539463098&Ntype=4 หอการค้าฯชี้ขึ้นแอลพีจีภาคครัวเรือน-ค่าไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น บวกกับการขึ้นค่าแรง 300 บาท คาดไตรมาส 4 สินค้าแห่ขึ้นราคา นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจทรรศนะต่อการขึ้นค่าจ้าง 300 บาท จากกลุ่มตัวอย่าง 800 คน พบว่าหลังจาก มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำภาคธุรกิจมีการปรับตัว ส่วนใหญ่ 39.7 %ปรับเพิ่มราคา รองลงมา 26.5% ลดสวัสดิการลง และ 16.2 %หาเครื่องจักรทดแทนแรงงาน ปัจจุบันค่าจ้างหรือเงินเดือนที่ปรับขึ้นส่วนใหญ่ 11.9% กระทบต่อต้นทุนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพคล่องของธุรกิจแย่ลงถึง 37.8% ส่วนมาตรการที่รัฐบาล ออกมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ 34.3% ได้รับประโยชน์ปานกลางเท่านั้น และส่วนใหญ่ 73.1% ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากภาครัฐเลย ขณะที่ภาคธุรกิจจะสามารถแบกรับภาระค่าแรง 300 บาท ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การขาดแคลนแรงงาน โดยเฉลี่ยรวมทุกภาคธุรกิจสามารถแบกรับภาระได้เพียง 5 เดือน ก่อนที่จะปิดกิจการ และ สามารถแบกรับภาระต้นทุนได้ระดับปานกลางเพียง 44.2% อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือภาคธุรกิจหลังจากการปรับขึ้นค่าจ้าง คือการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่งเสริมการส่งออก ลดราคาสินค้า หรืออุดหนุนทุนให้กับภาคธุรกิจ หาแหล่งเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น การปรับขึ้นแอลพีจีภาคครัวเรือน และค่าไฟฟ้า ทำให้ต้นทุนของภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น บวกกับการขึ้นค่าแรง 300 บาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าในช่วงไตรมาส 4 ปี 2556 ผู้ประกอบการจะปรับขึ้นราคาสินค้า ซึ่งเชื่อว่าจะปรับไม่เกิน 5% และ มองว่าในปี 2557 ราคาสินค้าจะปรับตัวสูงขึ้น เงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้นถึง 3.5% และจากการสำรวจการปรับขึ้น แอลพีจีส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระดับปานกลางเพียง 51.5% ทำให้ผู้ประกอบการปรับขึ้นราคาหรือไม่ 26.4 %ขอดูสถานการณ์ก่อน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนยังคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี แม้ขณะนี้จะเริ่มปรับตัวได้บ้าง แต่ยังได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ อีกทั้งปัญหาขาดแคลนแรงงานเริ่มส่งผลกระทบกับธุรกิจมากขึ้น โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ .............. ม.ธุรกิจบัณฑิตย์เผยผลสำรวจ 6 เดือนค่าแรง300 พบผลกระทบทำให้สิ้นปีเอสเอ็มอีแจ๊ง 8 หมื่นรายนายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยผลการวิจัยเรื่อง “6 เดือนค่าแรงขั้นต่ำ 300 SMEs ยังสู้ไหว?”ว่า สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีเอสเอ็มอีต้องเลิกกิจการราว 8 หมื่นรายทั่วประเทศ จากช่วง 6 เดือนแรกของปี ได้ปิดกิจการจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ประมาณ 5-7 หมื่นรายแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจรายย่อย และธุรกิจขนาดเล็ก ที่จ้างงานไม่เกิน 50 คน ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต และบริการค้าปลีก เป็นหลัก เพราะมีต้นทุนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 20% จากปัจจัยข้างต้น และจะมีผลต่อเนื่องไปถึง 6เดือนสุดท้ายของปีนี้ อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/biz/news/237216 วิกฤตแรงงาน-ขึ้นค่าจ้างแรงงาน 300 บาท ป่วนไม่หยุดภาคก่อสร้าง สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยร้องรัฐ 5 มาตรการเร่งสางปัญหาด่วน นายอังสุรัสมิ์ อารีกุล นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าสมาคมฯได้รับการร้องเรียนจากสมาชิกสมาคมที่มีอยู่กว่า 500 บริษัท ถึงผลกระทบจากปัญหาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานและทำให้ต้นทุนการก่อสร้างสูงขึ้น โดยมีการเรียนอย่างจริงจังในปีที่ผ่านมา และทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/property/news/242242
ความคิดควายๆ ที่ว่า ทำให้ค่าแรงมันสูง ชั้นแรงงานจะได้ลืมตาอ้าปากได้ เด็กประถมมันยังรู้เลยว่า ถ้าขึ้นค่าแรง ค่าครองชีพมันต้องขึ้นตาม สุดท้าย มันก็มาจบกันที่เท่าไหร่ก็ไม่พอ เหมือนอย่างตอนนี้ ที่เรียกร้องจะเอา 360 หรือ 420 กันอยู่นี่ไง แล้วยังไง สมมุติ รัฐบาลขึ้นไป 500 แล้ว คิดว่า ผ่านไปซักปี รึสองปี 500 นั้นจะพอมั๊ย สุดท้าย ก็ต้องไม่พอ เพราะค่าครองชีพวิ่งตามไปตลอด แถม ที่สำคัญคืออะไร มาตรฐานค่าแรงขยับสูงขึ้น การจ้างงานจากต่างประเทศก็ต้องขยับไปประเทศเพื่อนบ้าน หรือต้องหาทางแก้ปัญหาอื่น เพราะสู้ค่าแรงไม่ได้ ทั้งที่มันขึ้นแค่ตัวเลข ในทางมูลค่า ค่าของเงินมันต่ำลงไงครับ เพราะรัฐบาลควายๆ มันโง่เง่าเกินกว่าจะคิดวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ให้พอมีพอกินกันได้ ได้แต่เอามาหลอกล่อคนโง่ๆ ให้ดีใจ แล้วเป็นไง 300 ที่ว่ากัน ดีใจได้กี่วัน รัฐบาลต่อไป มีใครแก้ปัญหาได้ดีบ้าง เพราะค่าแรงมันขึ้นไปแล้ว สินค้าเขยิบราคาไปแล้ว จะห้ลด มันคงไม่ได้ ก็จำต้องมาเช็ดขี้เช็ดเดี่ยวรัฐบาลอีโง่ต่อไป คนชั้นกลางที่ผมว่า ไม่ได้พุดคำว่า ชนชั้นกลางนะครับ คนชั้นกลาง คือ คนที่มีงานทำ เงินเดินเกินหมื่นห้าไปแล้ว มีใครได้อะไรจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำบ้าง ขณะที่ค่าครองชีพขึ้น ค่าใช้จ่ายทุกอย่างกระเถิบขึ้นไปหมด ผมรู้ ว่าคุณรู้ คุณเข้าใจ เผลอๆ คุณเองก้ได้รับผลกระทบ เพียงแค่ไม่คิดพูด เพราะไม่เป็นประโยชน์ในการโต้เถียง
ผมสนับสนุนการเพิ่มค่าแรงนะ เพราะเห็นว่าประเทศเราแรงงานที่ดีมีค่าแรงที่ไม่เป็นธรรม เพียงแต่ค่าแรงที่ดีนั้นควรเพิ่มให้สำหรับแรงงานมีฝีมือ เป็นแรงงานที่มีคุณภาพสร้างผลผลิตสูง มีคุณค่า เพราะรู้สึกว่าแรงงานมีฝีมือบ้านเราค่าแรงต่ำผิดปรกติ เด็กเก่งเรียนจบมาสาขาดีๆขาดแคลน บางทีได้เงินเดือนเท่ากับเด็กจบสาขาที่ล้นตลาด อย่างนี้ต้องปรับให้เห็นคุณค่าที่จะเลือกเรียน สมัยก่อนจบวิศวกร สถาปัตย์ เห็นความแตกต่างของรายได้เมื่อเริ่มทำงานมากทีเดียว เดี๋ยวนี้ความแตกต่างลดน้อยลงเยอะ กลายเป็นเลือกเรียนง่ายๆไว้ก่อน อีกอย่างจะเป็นแรงจูงใจให้แรงงานที่ใช้สกิลต่ำขวนขวาย ปรับตนเองขึ้นสู่แรงงานขั้นสูง ด้วยการลงทุนกับตนเอง เพราะผมมีความรู้สึกว่าตลาดแรงงานเราถูกกดโดยผู้ประกอบการ ที่ลดต้นทุนด้วยการจ่ายต่ำกว่าที่ควรจะเป็นในแรงงานทักษะสูง โดยตนเองกำไรเข้ากระเป๋ามากมายเกินไป แต่กลายเป็นนักการเมืองขยับฐานในส่วนแรงงานทักษะต่ำ ไม่ต้องเรียนดีให้คิดมาก จบมาก็ได้เงินเยอะ นักการเมืองเพียงหวังในเรื่องคะแนนเสียง จนกดดันราคาสินค้าเพิ่ม ค่าครองชีพเพิ่ม แรงงานได้รายได้ส่วนเพิ่มไม่มากพอรายจ่ายที่เพิ่ม หักลบกันกลายเป็นติดลบ ไม่เหลือเงินมาเพิ่มศักยภาพตัวเอง แค่พอกินพอใช้ไปวันๆ หรือไม่พอใช้ด้วยซ้ำ