ศาลอาญา พิพากษายกฟ้องนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุตหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกล่าวหามีผลประโยชน์ทับซ้อน กรณีประชุมร่วมนักธุรกิจ โรงแรมโฟร์ซีซั่น ศาลระบุเป็นการแถลงข่าวเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ คดีนี้อัยการพิเศษ....... อ่านต่อได้ที่ : - See more at: http://www.newsplus.co.th/61497#sthash.Dq52y7Iz.dpuf ทำเป็นไม่เห็น ปั้นเรื่องเองเลยเป็น อย่างนี้ ศาลมีคำสั่งยกฟ้องคดียิ่งลักษณ์ ฟ้องชวนนท์ หมิ่นประมาทกรณี ว.5 โฟร์ซีซั่น ชี้ชวนนท์ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้องกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นฟ้องอดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส. และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จากกรณีเมื่อช่วงวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2555 นายชวนนท์ได้แถลงข่าวหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กรณี ว.5 โฟร์ ซีซั่นส์ ว่า มีพฤติการณ์และความประพฤติผิดจริยธรรม ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียชื่อเสียง ล่าสุดวันนี้ ศาลอาญาพิเคราะห์แล้ว มีใจความสำคัญเห็นว่า การแถลงของนายชวนนท์ เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท จึงมีคำพิพากษายกฟ้อง ที่มา : มติชนออนไลน์ แล้วก็คิดไม่เป็นกัน อย่างนี้ แม้การหมิ่นปรามาทนั้น จะเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แต่ถ้าเพื่อปกป้องชาติ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ความหมายเป็นอย่างนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้ สมาชิกหมายเลข 2124ถถถ 42 นาทีที่แล้ว http://pantip.com/topic/33377000 แล้วมันก็จะบอกว่า ไม่ปรองดอง เออ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
ต้องไปดูเนื้อหาที่ปูฟ้องชวนนท์ ถ้าแฉแต่เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน โดยไม่ได้พาดพุงไปถึงผลประโยชน์ทับท้อง ยังไงชวนนท์ต้องหลุดอยู่แล้ว haha
ผมว่า ศาลท่านคงเห็นว่า มันก็มีมูล เหมือนกัน แล้วคุณ ชวนนท์ เองก็อยู่ฝ่ายค้าน ซึ่งเป็น ฝ่ายตรวจสอบ อยู่แล้ว มันจึงไม่ผิดวิสัย คุณ ชวนนท์ จะต้องออกมาพูด เพื่อกระตุ้น ความสนใจของสังคมบ้าง เนื่องจาก เราก็รู้ ๆ กันอยู่ ว่าช่วงนั้น กำลังมีเรื่อง การจัดการน้ำ แล้ว ก็แน่นอน เรื่องที่ดิน รอบ ๆ พื้นที่ ที่จะทำแนวกั้นน้ำ หรือ ที่รองรับน้ำ มันอาจมีเรื่องผลประโยชน์ มาเกี่ยวข้อง คือถ้า มีข้อมูลชัดเจน เกี่ยวกับกล้องวงจรปิด ว่าไม่พบ ผู้ต้องสงสัย มาเจอ ปูนาเลย แบบนี้ คุณชวนนท์ คงเจอข้อหากลั่นแกล้ง ใส่ความ แต่เผอิญ ไม่มีหลักฐานที่ว่า (ไม่รู้เหตุผล ที่ไม่มี) มันก็ต้องให้ความเป็นธรรม คุณชวนนท์ด้วย ไม่งั้นอีกหน่อย คนเป็นฝ่ายค้าน คงไม่กล้าตั้งข้อสงสัย ถึงพฤติกรรม ไม่ชอบมาพากล ของคนในรัฐบาล
10 กว่าปีมาแล้ว ที่เกิดความแตกแยกทางความคิดในบ้านเมืองขึ้นมา เกิดทั่วไปในทุกภาคส่วนของสังคม เริ่มตั้งแต่ในครอบครัวที่เป็นหน่วยสังคมที่เล็กที่สุดก็ยังแตกแยกกัน ยิ่งครอบครัวใหญ่ ก็ยิ่งแบ่งแยก พ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง ปู่ ย่า ตา ยาย รวมกันไม่ได้จริงๆ ต่างคนต่างก็มีความคิดของตัวเอง ไม่เหมือนกัน สังคมไทยเต็มไปด้วย ความหวาดระแวง ต้องระวังคำพูดว่า เรื่องนี้จะพูดกับคนกลุ่มนี้ไม่ได้ ถ้าคนนั้นร่วมด้วย ต้องระวังอย่าเผลอพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวเขาของขึ้น พบคนที่เพิ่งรู้จักแม้กระทั่งคนขับแท๊กซี่ก็ต้องระมัดระวัง อย่าพูดเรื่องการเมือง เดี๋ยวจะไม่ถึงที่ ความขัดแย้งสะสมมากขึ้นจนเกิดการต่อสู้ด้วยกำลัง มีคนบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปก็ยิ่งขัดแย้งรุนแรงกว่าเดิม เพราะความขัดแย้งนั้นฝังรากลึก เนื่องจากผูกพันกับผลประโยชน์ที่เคยได้รับหรือหวังว่าจะได้รับในอนาคต ซึ่งทุกคนก็คงมีประสบการณ์เหล่านี้ด้วยตัวเอง สามารถจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ ใครๆจึงเรียกหาความปรองดอง โดยเข้าใจว่า ความปรองดองคือไม่แบ่งพวก ด้วยการมารวมกันเป็นพวกฉัน คิดเหมือนฉัน พูดเหมือนฉัน ถ้าเป็นอย่างนั้นยิ่งแตกแยก เพราะแต่ละฉัน ก็ยิ่งมีมากพวกขึ้นไปอีก “ปรองดอง” คืออะไร ไม่แบ่งแยก แม้ความคิดจะต่างกัน แต่สามารถรวมกันทำความดี เพื่อประโยชน์สุขของตนเองและประเทศชาติได้ คนดีกับคนเลว ปรองดองด้วยกันจะได้ไหม? ตราบใดที่คนดียังต้องมาเกลือกกลั้วอยู่กับคนเลว สังคมไม่มีทางสงบสุขได้ เราต้องทำให้คนเลว กลับตัว กลับใจมาเป็นคนดีก่อน สังคมจึงจะสงบสุขได้ เมื่อนั้นจึงจะปรองดองกันได้เพราะคนเลวกับคนดี ต่างกันลิบลับ ไหว้พระ คนชั่วก็ไหว้ได้ บริจาคทาน คนชั่วก็บริจาคได้ สวดมนต์ คนชั่วก็สวดได้ เข้าวัดปฎิบัติธรรม คนชั่วก็ปฎิบัติได้ แล้วอะไรที่คนชั่วทำไม่ได้บ้าง
เพราะควายในพันทิปมันอยู่แต่ในปลักที่มีกะลาครอบไม่เคยเหนดวงอาทิตย์ เรื่องนี้ประมวลกฎหมายอาญาได้วางหลักมาแล้วเกินกว่า50ปีแล้ว มาตรา 326* ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ *[มาตรา 326 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535] มาตรา 327 ผู้ใดใส่ความผู้ตายต่อบุคคลที่สาม และการใส่ความนั้นน่าจะเป็นเหตุให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้ตายเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษดังบัญญัติไว้ในมาตรา 326 นั้น มาตรา 328* ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ทำให้ปรากฎไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษรกระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท *[มาตรา 328 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฏหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2535 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535] มาตรา 329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต (1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม (2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่ (3) ติชม ด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ (4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรม เรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท มาตรา 330 ในกรณีหมิ่นประมาท ถ้าผู้ถูกหาว่ากระทำความผิด พิสูจน์ได้ว่าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามไม่ให้พิสูจน์ ถ้าข้อที่หาว่าเป็นหมิ่นประมาทนั้นเป็นการใส่ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์จะไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดูมาตรา 329กับ330ครับ
รายละเอียด.. ที่ห้องพิจารณาคดี 805 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมิ่นประมาท หมายเลขดำ 2492/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อายุ 39 ปี อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 อัยการโจทก์ฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อระหว่างวันที่ 19-21 ก.พ. 2555 จำเลยได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่เข้าประชุมสภาแต่เอาเวลาไปทำธุรกิจส่วนตัวหารือกับกลุ่มคนย่อย พูดเรื่องสำคัญของประเทศถือเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง และมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับความเสียหายโดยบุคคลอื่นเข้าใจว่าผู้เสียหายมีพฤติการณ์ทุจริตและประพฤติมิชอบเอื้อประโยชน์กับกลุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยอาศัยอำนาจในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งไม่เป็นความจริง จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และให้ยึดทำลายประกาศซึ่งเป็นเอกสารมีข้อความแสดงการหมิ่นประมาท รวมทั้งให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาของศาลอย่างน้อย 7 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าพยานโจทก์นำสืบทำนองว่าในวันดังกล่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ โจทก์ร่วม ได้ร่วมประชุมกับนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายอนันต์ อัศวโภคิน และบุคคลอื่นๆ รวม 5 คน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แม้ในการประชุมดังกล่าวจะไม่เป็นความลับ แต่ก็ไม่เปิดเผยในรายละเอียด รวมทั้งโจทก์ได้เลื่อนประกาศการปรับโครงสร้างการประเมินราคาที่ดินและการปรับผังเมืองการใช้ที่ดินในช่วงเวลาขณะนั้น ที่โจทก์อ้างว่าเป็นเพียงการรับฟังความคิดเห็นด้านธุรกิจ แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงเป็นการประชุมกันเพียงแค่คนกลุ่มย่อย ซึ่งเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อประเทศ แต่กลับไม่มีการประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย อีกทั้งการประชุมดังกล่าวก็เป็นความลับไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอก จึงทำให้เป็นที่สงสัยของฝ่ายจำเลยในฐานะโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายค้านซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล นอกจากนี้ เมื่อสอบถามไปยังนายอนันต์ อัศวโภคิน แต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าร่วมประชุมแต่อย่างใด ถ้าหากนายอนันต์เข้าร่วมประชุมด้วยจริงก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธ ศาลเห็นว่าพฤติการณ์โจทก์มีเหตุสมควรให้จำเลยสงสัยและมีเหตุสมควรที่จำเลยจะออกมาแถลงข่าว ซึ่งแม้จำเลยพิสูจน์เรื่องดังกล่าวไม่ได้และข้อความที่จำเลยแถลงข่าวนั้นเป็นข้อความที่หมิ่นประมาทก็ตาม แต่การที่จำเลยแถลงข่าวในฐานะพรรคฝ่ายค้านอันมีลักษณะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง ด้านนายชวนนท์กล่าวภายหลังว่า ขอขอบคุณศาลที่พิพากษายกฟ้อง ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ตรวจสอบการเดินทางไปประชุมที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ของอดีตนายกรัฐมนตรี การประชุมดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดและกำหนดการใช้โค้ดว่า ว.5 มีความหมายว่าปกปิด ไม่เปิดเผยนั้น ตนในฐานะโฆษกและสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จึงวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ เพราะช่วงนั้นกำลังอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างราคาที่ดินใหม่ ดังนั้นการพบปะกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่มีการเปิดเผย จึงย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ และหวังว่าผลคำพิพากษาจะได้เป็นบรรทัดฐานต่อไปว่าการตรวจสอบของฝ่ายค้านไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม หากตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศชาติแล้ว ควรจะได้รับการคุ้มครองจากศาล ขณะที่ฝ่ายบริหารประเทศก็ควรจะดำเนินการนโยบายอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ได้เข้าถึงความจริง และสร้างกรอบจริยธรรมที่ถูกต้องของผู้ที่เข้ามาทำงานทางการเมืองซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในอนาคตต่อไป นอกจากคดีนี้แล้วยังตนยังถูก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฟ้องร้องเกี่ยวกับการจัดรายการสายล่อฟ้า และวิพากษ์วิจารณ์การประชุมที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์อีกคดีด้วย ขั้นตอนยังอยู่ระหว่างสืบพยาน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกหนักใจแต่อย่างใด http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000030553
ฟ้องเท็จไม่มีมั้งครับ มีแต่แจ้งความเท็จ คือนำความอันทราบดีว่าไม่ใช่ความจริงที่เกิดขึ้นมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ แล้วก็มีเบิกความเท็จ ใช้หลักฐานเท็จ แต่เรื่องนี้ชวนนท์พูดจริง ขึ้นศาลคือไปตัดสินกันว่าหมิ่นหรือไม่
หล่อนเล่นหนีเวลาราชการไปพบนักธุรกิจเฉพาะกลุ่มที่สนับสนุนตัวมันเองอย่างลับๆ จนป่านนี้ชาวบ้านเขายังไม่ได้คำตอบเลยว่าคุยอะไรกัน
ถ้าไม่พูดเรื่องทำนองชู้สาว ก็ไม่มีปัญหา แต่ใครไปพูดเรื่องทำนองชู้สาว ดูแล้วท่าจะไม่รอดแฮะ *********************************************** 2015/03/16 ศาลยกฟ้อง "ชวนนท์" หมิ่นฯ "ยิ่งลักษณ์" กรณีผลประโยชน์ซ้อนโฟว์ซีซั่น
สงสัยอย่างครัช คดีนี้ โจทก์เคยโผล่หัวมาที่ศาลให้การด้วยตัวเองบ้างหรือเปล่า หรือใช้แต่ทนายมายื่นคำให้การ
การพิจารณาคดีเป็นไปตามคำฟ้องของโจทย์ต่อคำแถลงของจำเลย เรื่องแถลงข่าวกล่าวหามีผลประโยชน์ทับซ้อน กรณีประชุมร่วมนักธุรกิจ โรงแรมโฟร์ซีซั่น แต่มติชนลงข่าว ยื่นฟ้อง นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส. และโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 จากกรณีเมื่อช่วงวันที่ 19-20 กุมภาพันธ์ 2555 นายชวนนท์ได้แถลงข่าวหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กรณี ว.5 โฟร์ ซีซั่นส์ ว่า มีพฤติการณ์และความประพฤติผิดจริยธรรม ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสียชื่อเสียง ซึ่งเสื้อแดงทั้งหลาย ก็เชื่อตามมติชน บิดเป็นประเด็นชู้สาว เป็นเหตุให้อ้างว่าศาลพิจารณาเข้าข้าง คำอ้างนี้มักจะยกมาใช้เสมอๆเรื่องจะไม่ยอมปรองดอง
ผมก็อยากถามให้ชัดๆว่าไม่ปรองดองของเสื้อแดงคืออะไร สำหรับผมก็คือ คิด พูด ทำ ไม่เหมือนกันหรือจะแม้ตรงข้ามกัน ถ้าต่างคนต่างอยู่ ไม่จับอาวุธฆ่ากัน นั่นถือได้ว่าปรองดองแล้ว ถ้า เจอหน้ากัน ข้ามถิ่นกัน จะต้องจับอาวุธฆ่ากัน หรือต่างจัดชุมนุมยกพวกใส่กันนี่ใช่ไม่ปรองดองตามที่เสื้อแดงต้องการหรือเปล่า ประชาชนส่วนใหญ่แม้จะต่างกัน ยังไปมาหาสู่กันได้ ซื้อขายกันได้ ทำกิจกรรมบันเทิง กีฬา อื่นๆกันได้ มีก็แต่แกนนำเสื้อแดงที่พยายามจัดม็อบชนม็อบทุกครั้ง โดนรัฐประหารก็ด้วยสาเหตุนี้แหละ
ว่าแล้ว แบบนี้ไง ยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด กระทู้สนทนา พรรคการเมืองการเมือง เบื่อกับความยุติธรรมแบบห่วยๆของสังคมไทยครับ เชื่อได้เลยว่ายิ่งคุณตัดสินแบบเลือกข้างแบบนี้มากเท่าไร สังคมยิ่งไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม ยิ่งคุณเข้าข้างพรรคแมลงสาปมากเท่าไร โอกาสที่จะกลับมาชนะเลือกตั้งยิ่งน้อยลงไปเท่านั้น ผมเชื่อว่าตอนนี้ต้องมีคนจำนวนหนึ่งเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการยุติธรรม เพียงแต่เค้าไม่สามารถแสดงพลังได้ รอให้วันที่อำนาจจะกลับมาอีกครั้งในรูปของการเลือกตั้ง ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรแต่ก็จะรอครับ อีกอย่างผมเชื่อว่าพรรคแมลงสาปต้องสิ้นชื่อภายใน generation ผมนี่แหละ สมาชิกหมายเลข 1460ถถถ 3 ชั่วโมงที่แล้ว http://pantip.com/topic/33378580